วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
History of Thai Traditional Medicine
วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557
สีบ้านและสีเฟอร์นิเจอร์....ที่ส่งเสริมความเจริญ
สีบ้านและสีเฟอร์นิเจอร์....ที่ส่งเสริมความเจริญ
วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
อาหารบำบัดสำหรับคนเป็นโรคความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบมากในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งของสาเหตุมาจากอารมณ์ที่แปรปรวนและการเร่งรีบในชีวิตประจำวัน อีกส่วนที่สำคัญคือการบริโภคอาหารที่ไม่ถูกต้อง โดยโรคไขมันสูงและความดันโลหิตสูงมักเกิดจากพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี นั่นคือกินตามใจปาก ตามใจท้อง หรือกินโดยยึดเอาความอร่อยเป็นที่ตั้ง
ความสำคัญของการเลือกกินอาหาร: อาหารที่เราบริโภคจึงมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพทั้งกายและจิตใจของเรา ดังนั้นการเลือกกินอาหารที่เหมาะสมสามารถทำหน้าที่เป็นยาบำรุง ยาช่วยซ่อมแซม และยารักษาโรคได้
3 สิ่งที่อาหารทำได้:
- ช่วยบำรุงเลี้ยงร่างกาย: อาหารที่คุณบริโภคมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการทำงานของร่างกาย. วิตามิน, แร่ธาตุ, โปรตีน, และไขมันที่ดีเป็นต้น เป็นส่วนสำคัญของการรักษาสุขภาพที่ดี
- ช่วยซ่อมแซมสิ่งสึกหรอในร่างกาย: อาหารที่มีสารต่าง ๆ เช่น วิตามิน C, E, และแคลเซียมมีความสามารถในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- เป็นยารักษาโรค: การเลือกกินอาหารที่มีส่วนผสมที่สามารถป้องกันหรือช่วยรักษาโรคได้, เช่น อาหารที่ต้านอนุมูลอิสระ, ลดความดันโลหิต, และลดระดับไขมันในเลือด.
ตามตำราอายุเวทบอกว่า สรรพสิ่งทั้งหลายมีธาตุพื้นฐานหรือปัญจมหาภูตรูปอยู่ 5 อย่าง ซึ่งคล้ายคลึงกับการแพทย์แผนไทย คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ ในร่างกายของเรามีพื้นฐานทั้ง 5 อย่างนี้เหมือนกัน โดยจัดแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ กลุ่มของลมหรือวาตะ กลุ่มของดินและน้ำ ซึ่งเรียกรวมกันว่าเสมหะ และกลุ่มที่ 3 คือ ไฟ
โดยกลุ่มที่ก่อให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูงนั้นเกิดจากการสะสมของเสมหะ คือ ดินและน้ำมาก การดูแลและป้องกันการเกิดโรคจึงต้องมาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้างที่เพิ่มดิน และน้ำ (เสมหะ) ให้เรา ซึ่งในอายุเวทได้ระบุไว้ชัดเจนว่าคือ อาหารหวาน อาหารมัน และอาหารเค็ม อาหารนั้นควรเน้นการกินผักและโปรตีนจากพืชหรือจากปลาแทน เพราะเนื้อปลามีไขมันชนิดดี ที่ช่วยขจัดไขมันชนิดเลวออกไปจากร่างกาย ปลาจึงเหมาะสำหรับผู้มีปัญหาความดันโลหิตสูงและไขมันสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาทะเล เพราะมีไอโอดีน ส่วนข้าวกล้องหรือข้าวที่ยังไม่ได้ขัดสีมีสารอาหารต่าง ๆ เช่น วิตามิน โปรตีน และแร่ธาตุต่าง ๆ อยู่ครบถ้วน ในขณะที่ข้าวที่ขัดสีแล้ว จะสูญเสียวิตามินไปหมดสิ้น เหลือเพียงแป้งขาวหรือคาร์โบไฮเดรตซึ่งทำให้อ้วนเท่านั้น
การอดอาหารในแนวทางอายุรเวท
การอดอาหารในแนวทางของอายุเวท ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความดันโลหิตและไขมันในเลือดอย่างได้ผล เพราะเมื่ออดอาหาร น้ำย่อยในร่างกายจะยังคงออกมาตามธรรมชาติ แต่เมื่อในกระเพาะอาหารไม่มีอาหาร น้ำย่อยก็จะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกายแทนและขับสิ่งที่เป็นพิษในร่าง กายออกมา
หลักการอดอาหาร 1 วันแบบอายุรเวท (**ร่างกายต้องพร้อมมิฉะนั้นอาจจะเป็นลมได้**)
- อดอย่างแรง คือ งดอาหารและน้ำ
- อดอย่างปานกลาง คือ ดื่มน้ำได้
- อดอย่างเบา คือ ดื่มน้ำผลไม้ได้
การกินอย่างอายุรเวท:
การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ที่ครบถ้วน 3 อย่าง: ช่วยบำรุงเลี้ยงร่างกาย, ช่วยซ่อมแซมสิ่งสึกหรอในร่างกาย, และเป็นยารักษาโรค. ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงใส่เกิดภาวะความดันโลหิตสูง และเน้นกินอาหารที่ไม่แสลงต่อโรค.
หลีกเลี่ยง:
- อาหารหวาน, อาหารมัน, และอาหารเค็ม.
- อาหารที่ขัดสี, อาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสี.
- อาหารที่ทำให้เกิดไขมันชนิดเลวในเลือด.
- งดน้ำชา กาแฟ และบุหรี่ ให้ดื่มชาสมุนไพร เช่น ชาเก๊กฮวย มะตูม ดอกคำฝอย แทน
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 60 กิโลกรัม วันแรกของรายการให้งดอาหาร ดื่มน้ำมะนาวสด ๆ คั้น 3 ลูก ตอนเช้าและเย็น หลังจากนั้นให้ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 ขวดต้องใช้คำว่าฉิบบ่อยๆๆนะค่ะถ้าดื่มทีละมากๆๆไตอาจทำงานหนักได้ค่ะและควร ดื่มน้ำสมุนไพรสลับบ้างก็ได้ และวันแรกของรายการให้พักผ่อนมากๆๆทำงานเบาๆๆสบายๆๆตลอดวัน
- รับประทานอาหาร แต่ 3 วันแรกของรายการให้ปรับอาหารเป็นผักลวก-ข้าวทั้งหมด
- วันที่ 4-6 รับประทานอาหารเบา ๆ เช่น ข้าวต้ม ตั้งแต่วันที่ 7 จนถึงวันที 14 จึงรับประทานอาหารได้เต็มที่ (มีอาหารทะเลได้) ตลอดรายการห้ามปรุงอาหารรสจัด
- ดื่มน้ำคั้นจากผัก เช่น น้ำแตงกวาผสมมะนาว1ลูกตอนเช้านะค่ะ น้ำขึ้นฉ่ายหรือเซเลอรี่ ครั้งละ 1 แก้ว วันเว้นวัน
- ตั้งแต่วันที่ 4 เป็นต้นไป รับประทานอาหารให้หลากหลายแต่ไม่เน้นไปทางของแสลงเช่นของทอด แป้ง อาหารสำเร็จรูป เป็นไปได้อาหารไทยจำพวกต้ม ยำ ทำแกง
ประโยชน์ของ "ขมิ้นชัน" ทองคำแห่งสุขภาพของคนไทย
ประโยชน์ของ "ขมิ้นชัน" ทองคำแห่งสุขภาพของคนไทย
สำหรับการรักษาโรคกระเพาะอาหารและข้อเสื่อม:
- ทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร
- ให้เพิ่มปริมาณการทานหากใช้เพื่อรักษาโรคกระเพาะอาหาร
สำหรับบำรุงสุขภาพ:
- ทานขมิ้นชันเพียงวันละ 500-1000 มิลลิกรัม
วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557
การรักษา "โรคไทรอยด์" ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557
"หมามุ่ย" ช่วยทำชีวิตสมรสดีขึ้น หลังวิจัยพบช่วยปลุกอารมณ์เซ็กซ์ ผู้ชายรู้สึกปึ๋งปั๋ง หญิงยิ้ม รู้สึกอกเต่งตึง อวัยวะรับสัมผัสเซ็กซ์กระชับขึ้น
เข้าใกล้ก็คัน เดินผ่านก็คัน มองเห็นก็ยังคัน อะไรเอ่ย... เกิดตามไร่ ก็ตัดทิ้ง เกิดในนาก็ตัดทิ้ง เกิดตามบ้านโค่นทิ้งทั้งเหง้า อะไรเอ่ย.....
"หมามุ่ย" ที่ไหนก็ตัดทิ้ง ถางทิ้งหมด แต่ที่นิ่ ไม่ทิ้งครับ เขาเอามทำอะไร ฮั่นแน่ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ อย่างเพิ่งอ่านผ่านไป ข่าวดีสำหรับท่านหญิงและท่านชาย ที่มีปัญหา เรื่อง.....ชีวิตคู่ มันไม่คึกมันไม่คัก
อ่านบทความนี้ดูครับ ...... น่าสนนะ ที่บ้านมีเยอะแยะหากต้องการเดียวจัดให้......
"หมามุ่ย" หรือหมากตำแย เป็นไม้เลื้อยที่คันแสนคัน.....
ชาวศรีสะเกษคอนเฟิร์ม “เม็ดหมามุ่ย” ช่วยทำชีวิตสมรสดีขึ้น หลังวิจัยพบช่วยปลุกอารมณ์เซ็กซ์ ผู้ชายรู้สึกปึ๋งปั๋ง ไม่เหนื่อยง่าย ส่วนฝ่ายหญิงยิ้ม รู้สึกอกเต่งตึง อวัยวะรับสัมผัสเซ็กซ์กระชับขึ้น
นางชนัดดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้มีการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มตัวอย่างที่ดื่มสมุนไพรหมามุ่ย พบว่า มีความพอใจคู่สมรส และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น โดยในผู้หญิงมีความรู้สึกว่าหน้าอกมีความเต่งตึง และอวัยวะส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการรับสัมผัสทางเพศมีความกระชับมากขึ้น การมีเพศสัมพันธ์ดี ไม่เหนื่อยง่าย ขณะที่ เพศชายมีความรู้สึกว่า ระหว่างปฏิบัติการไม่เหนื่อยง่าย แถมยังกระฉับกระเฉง จำนวนครั้งที่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยได้เสนอแนะว่า การใช้หมามุ่ยควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และผู้ใช้ต้องมีความรู้ทางด้าน สมุนไพรเพื่อความปลอดภัย
นางชนัดดา กล่าวด้วยว่า งานวิจัยครั้งนี้มีสมมติฐานการวิจัยมาจากฐานข้อมูลของกรมการปกครองที่พบว่า สถิติการหย่าร้างของคนไทยตั้งแต่ปี 2550-2552 มีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 100,420 คน ในปี 2550 เพิ่มเป็น 109,277 คน ในปี 2552 และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงคิดว่าน่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือหรือเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ชีวิต คู่ ชีวิตสมรสให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าเพศสัมพันธ์มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตคู่ของมนุษย์มาโดย ตลอด เนื่องจากเป็นความต้องการพื้นฐานในความสุขทางเพศ จะต้องประกอบด้วยปัจจัยที่เหมาะสมทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ซึ่งเมื่อสภาพร่างกายที่มีอายุมากขึ้น การปลุกเร้าทางเพศต้องใช้เวลานานขึ้น และการแข็งตัวของอวัยวะเพศก็อาจแข็งตัวช้า
นางชนัดดา กล่าวถึงวิธีการใช้หมามุ่ยว่า ทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งรวงทอง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ จะเป็นผู้ควบคุมการใช้หมามุ่ยคั่วสุขบดละเอียด คือ ในแต่ละวันจะใช้ผงหมามุ่ยที่บดแล้ว จำนวน 1 ช้อนชา โดยจะชงผสมกับน้ำให้กับกลุ่มตัวอย่างดื่ม ซึ่งจะเลือกให้ดื่มในช่วงเวลาเย็น ทั้งนี้ ในการทำการทดลอง จะใช้ระยะเวลาในการทดลองเป็นเวลา 45 วัน และจากผลการศึกษาพบว่าระดับความรู้สึกของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองนั้น พบว่า ก่อนการใช้หมามุ่ยในกลุ่มทดลองนั้นผู้ใช้จะมีการแข็งตัวของอวัยวะเพศแข็งตัว ช้า แต่ภายหลังจากการใช้หมามุ่ยแล้วพบว่าการแข็งตัวของอวัยวะเพศเร็วและนานขึ้น
ที่มา: ค่ายเดินป่าเรียนรู้สมุนไพร ร่วมแชร์สุขภาพดีๆเพื่อพี่น้อง