
ในปัจจุบันนี้จะเห็นว่าทุกวันนี้มีคนที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดอุดตัน และน่าจะเป็นโรคที่เป็นสาเหตุในการเสียชีวิต วันละหลายคน เพราะเราจะได้รับทราบจากญาติ มิตร หรือเพื่อนๆ ได้ฟัง ได้บอกกันมา “เห็นหน้ากันอยู่ดีๆ อ้าวไปเสียแล้ว”
แล้วโรคนี้บางทียังไม่ได้สั่งเสีย ไปเสียแล้ว แต่บางคนก็เป็นอยู่นาน ลำบากลูกหลาน ญาติต้องคอยดูแลหาข้าวน้ำมาคอยดูแลปฎิบัติ เพราะคนป่วยช่วยเหลือตัเองได้ไม่ ต้องหาคนมาช่วยดูแลอีก ต้องเสียเวลา เสียเงินเสียทองรักษากันเหนื่อย ทางการแพทย์บอกว่า ทุกๆ ชั่วโมง มีคนตายจากโรคหลอดเลือด สมองอุดตัน อย่างน้อย 5-6 คน และตายจากหลอดเลือดหัวใจอุดตัน 2 คน และจากโรคเบาหวาน อย่างน้อย 2 คน และถ้าเป็นคนกรุงเทพ ด้วยแล้ว จะพบวว่า ตายจากโรคหัวใจ อย่างน้อย 8 ราย
ที่สำคัญของโรคนี้เกิดจากการแข็งตัว และตีบตันของหลอดเลือดแดง จึงทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเรื้อรัง หรือทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ทำให้สมองขาดเลือดเลี้ยง ทำให้เซล์ กลายเป็นอัมพฤษ์ อัมพาต เกิดปัญหาขึ้นที่ “ไต” ทำให้ไตเสื่อม ความดันเลือดสูง ทำให้อวัยต่างๆ ขาดเลือด เช่น แขนขา ลีบ ขาดเลือดไปเลี้ยง ก็เลยเน่า บางคนต้องตัดขา เพื่อรักษาชีวิต เลือดเลยคั่งเป็นความร้อน เกิดเป็นพิษ เลือดก็เสีย
ผมเอง (หมอแดง) นี้นี่แหละ ที่เกิดอาการหลอดเลือดตีบตัน เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ขาจะบวมทุกวัน ช่วงเช้า จะมีอาการบวม จนหมอจีนบอกผมว่า “เป็นโรคเท้าช้าง” เวลานั่งเก้าอี้สูงๆ หรือนั่งนานหน่อย ก็ต้องหาเก้าอี้มารองขาไว้ตลอด ไม่อย่างนั้นจะบวม แน่นแลย ต้องให้ลูกน้องช่วยนวดให้ทุกวัน เท้า ขา ฝ่าเท้าจะร้อน ตอนก่อนนอน หรือตกกลางคืน จะร้อนขาและฝ่าเท้ามาก จนต้องใช้น้ำเย็นรดขาแทบทุกวัน ไม่อย่างนั้นจะนอนไม่ได้เลย
ข้อเท้า จะใหญ่ขึ้น บวม ที่มากหน่อยก็คือขาขวา บริเวณหลังเท้า และข้อเท้าจะเห็นเส้นเลือดจะดำ
และมีอากาปวดและข้อมือและแขนขวามาก ต้องเอาแผ่นความร้อน มาคาดไว้ก่อนนอน ไม่อย่างนั้นมันจะปวดจนนอนไม่หลับ
*** ดังนั้นก็ให้เข้าใจไว้เลยว่า อาการที่เรามีอาการปวด ตามร่างกาย หรือตามอวัยวะต่างๆ นั้น เป็นเพราะการไหลเวียนของเลือดลมติดขัด ไหลเวียนได้ไม่ดี และถ้าเรามีอาการเมื่อย ก็เป็นเพราะการไหลเวียนยังถือว่าดีอยู่บ้าง แต่ดูจะหริบหรี่เต็มที ดังนั้นเราควรแก้ไขกันที่ต้นเหตุ
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดหลอดเลือดแดงแข็ง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันสูง ไขมันสูง โคเลสเตอรอลสูง การสูบบุหรี่ อายุมากขึ้น อาการหลังหมดประจำเดือน ประวัติในครอบครัว พฤติกรรมในการดำรงชีวิต ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบตันแคบลง ทำให้เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก
เวลาออกแรง หรือเล่นกีฬาหนัก ๆ นักกีฬาดังๆที่ต้องเสียไปหลายคน เวลาโมโหรีบทำอะไร เนื่องจากเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อ หัวใจไม่พอ กับความต้องการของหัวใจ จนเกิดอาการหัวใจขาดเลือด ซี่งมักจะเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ไม่อันตรายถึงชีวิตนัก แต่ถ้ามันมีอาการก็ไม่แน่เหมือนกัน ไม่รู้ว่ามันจะเล่นเอาหนักเมื่อไหร่ อย่ารอให้หนักแล้วค่อยมาแก้ไขนะ
*** อย่าไปคิดว่าอยู่หลอดเลือดมัน จะตีบ โดยฉับพลันทันทีทันใด มันต้องใช้เวลาอันยาวนาน เหมือนกองผักตบชวาที่สร้างปัญหากับแม่น้ำลำคลองในขณะนี้ ถ้าไม่มีไม่การดูแล หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง แม่น้ำทั้งสายก็จะเต็มไปด้วยสวะ (เหมือนตามที่ผมว่าได้ มองดูแม่น้ำแม่กลองอยู่ทุกวัน เกือบ 3 เดือนแล้ว มีแต่ขยะเต็มคลอง ทุกคน เทลงคลอง ไม่มีเก็บขยะหรือจัดการกับกอผักตบชวา บอกว่าราชการไม่มีค่าน้ำมันมามาจ้างรถตักขยะ) เมื่อ 2 – 3 วันนี้ ผมได้ดูรายการ TV ช่องไหนก็จำไม่ได้ น่าจะเป็นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีชาวบ้านพากันเก็บผักตบชวา นำมาตากแห้ง กิโล 12 บาท แล้วผลิตเป็นสินค้าขายกลุ่มสหกรณ์ รายได้ดีเลยละนี่เป็นสิ่งที่ดี ที่จะเห็นหนทางที่จะช่วยกันกำจัดผักตบชวาได้ ถ้าท่านเห็นเขาทำขายที่ไหน ก็ช่วยกันอุดหนุนซื้อกันหน่อย เมืองไทยจะได้น่าอยู่น่าเที่ยว)
และการที่แสดงให้เห็นเหล่านี้ เป็นสัญญานเตือนภัย ที่ธรรมชาติมีไว้ให้เรา แต่บ่อยครั้งการเตือนภัยเหล่านี้ เกิดช้าไป หรือปล่อยปะละเลยจนสายเกินไปแล้ว ดังนั้นลองมาดูวิธีการแก้ไข หาวิธีป้องกันก่อนจะสายเกินแก้กันเถิดครับ อย่าปล่อยให้ระเบิดเวลาชีวิตลูกนี้ จ้องคร่าชีวิตคนที่เรารักกันอีกต่อไปเลย การทานยาลดไขมันอาจเป็นทางออกของการแพทย์แบบแผน แต่ในระยะยาวเห็นทีจะเป็นการสร้างภาระให้ตับต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น จากไขมันที่ถูกนำไปพอกไว้ที่ตับแทน แม้ในหลอดเลือดจะน้อยลงก็ตาม ดังนั้นลองหันมาใช้สมุนไพรวิธีทางธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อตับและไต โดยวิธีหลักๆที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการลดคอเลสเตอรอล ไขมันในเลือด 4 ขั้นตอนหลักๆดังต่อไปนี้
4 ขั้นตอนในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจ และเส้นเลือดตีบ
1. เลือด มีน้ำเป็นส่วนประกอบ 91% ดังนั้นถ้าในแต่ละวันไม่ดื่ม หรือดื่มไม่เพียงพอ น้ำเลือดก็จะข้นเป็นโคลน หัวใจก็ทำงานหนักเป็นสาเหตุอันดับแรกของโรคหัวใจวายเลยนะครับ
การดื่มน้ำที่ถูกวิธี
- ตื่นนอนดื่ม 2-3 แก้ว ช่วยให้เลือดไม่ข้น ห่างไกลโรคหัวใจ และไล่ของเสียออกจากร่างกาย
- ระหว่างวัน แบ่งดื่มให้ได้ วันละ 1.5-2 ลิตร โดยวิธีการแบ่งดื่มครั้งละ ครึ่งแก้ว
- ก่อนและหลังอาหาร 20 นาที ไม่ควรดื่มน้ำเกินครึ่งแก้ว เพื่อรักษาความเข้มข้นของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร
2. น้ำมันมะพร้าว เพิ่มไขมันชนิดดี โดยทานน้ำมันมะพร้าว 2-4 ช้อนโต๊ะ/วัน เพื่อเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) ที่จะช่วยนำไขมันคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ออกจากร่างกาย อีกทั้งยังช่วยทำความสะอาดหลอดเลือดไม่ให้อุดตัน ( ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ Ze-oil ประกอบด้วย น้ำมันมะพร้าว น้ำมันกระเทียม น้ำมันงาขี้ม่อน น้ำมันรำข้าว ทานตื่นนอน และก่อนนอน 2 แคปซูล )
3 เบญจพันธุ์ ลูกใต้ใบ (บ้านอโรคยา) ช่วยบำรุงตับ และ เปิดท่อน้ำดีเพื่อให้ของเสียและไขมันที่พอกอุดตันที่ตับ ถูกขับออกมาง่ายขึ้น รวมถึงการช่วยดึงดูดน้ำเข้าสู่กระแสเลือดให้มากขึ้น เพื่อเร่งการขับของเสียออกทางปัสสาวะได้มากขึ้นอีกทาง โดยทานหลังอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
4. สาหร่ายเกลียวทองเป็นอาหารที่ เหมาะสำหรับฟื้นฟู ตับ เพราะ เนื้อเยื่อของตับประกอบด้วยสารประเภทโปรตีนถึง 70% ซึ่งใกล้เคียงกับ โปรตีนที่มีอยู่ในสาหร่ายเกลียวทองที่มีมากถึง 70% เช่นกัน (มากกว่าไข่ไก่และเนื้อสัตว์ 2-3 เท่า) ดังนั้นในการฟื้นฟูเซลล์ของตับที่เสียหาย ต้องใช้โปรตีนในการซ่อมแซม อีกทั้งสาหร่ายเกลียวทอง สามารถย่อยง่าย และ ดูดซึมได้ถึง 95% ดังนั้น ตับก็จะได้โปรตีนและสารอื่นๆจำนวนมากเพื่อไปซ่อมแซมเซลล์ตับ และ ไม่ต้องทำงานหนักในการกำจัดของเสีย ตับก็สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็ว
…...................................................
เพิ่มเติม การปฏิบัติตัวเพื่อควบคุมคอเลสเตอรอล
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ไขมันสัตว์ นม เนย ไข่ เครื่องในสัตว์ เบคอนไส้กรอก อาหารทอด โดยในแต่ละวัน ควรได้รับคอเลสเตอรอลจากอาหารไม่เกิน 300 มก.ต่อวัน โดยเลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีคอเลสเตอรอลน้อยกว่า 100 มก. ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
- หลีกเลี่ยงไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นไขมันอันตราย ถ้าบริโภคมากจะทำให้ไขมัน LDL เพิ่มขึ้นและลดไขมัน HDL ที่เป็นไขมันดี ไขมันทรานส์ พบได้ใน เบเกอรี่ ขนมกรุบกรอบสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป เนยเทียม เป็นต้น
- ขับถ่ายให้ได้ทุกวัน จะใช้วิธีดีท๊อกของเสียออกจากร่างกาย โดยการดีท๊อกสวนทวาร ,ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมช่วยดีท๊อก หรือใช้สมุนไพรไทยๆ พวกมะขามแขก ,ส้มแขก หรือยาแผนโบราณ จตุผลาธิกะ ,ธรณีสันฑะฆาต ก็ได้
- ทานผักผลไม้ที่มีเส้นใยไฟเบอให้ได้วันละประมาณ 25 กรัม แนะนำให้ทานข้าวกล้องแทนข้าวขาว เพราะข้าวกล้องมีไฟเบอเคลือบอยู่ ทำให้ร่างกายได้รับเส้นใยไฟเบอจำนวนมากด้วยวิธีง่ายๆ (หรือ ใช้ไซเลี่ยมฮัส ไฟเบอร์ชงละลายน้ำทานก่อนอาหาร วันละ 1 ช้อนโต๊ะ)
- ปรับพฤติกรรมควบคุมน้ำหนัก อย่าให้อ้วนเกินพิกัด โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ควรนอนเกิน 5 ทุ่มเพื่อให้ ตับและถุงน้ำดีได้พักผ่อน
- ดีท๊อกซ์ตับ ช่วยลดคอเลสเตอรอล ,นิ่วในตับ และถุงน้ำดีได้เร็วที่สุด หากมีเวลา แนะนำให้ลองเข้าคอร์สสักครั้ง แล้วนำขั้นตอนมาปฏิบัติเองที่บ้านก็ได้ครับ
ที่มา: Herbale
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น