วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ประโยชน์และสรรพคุณของงา

ชื่ออื่น ๆ :   นีโซ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน),ไอยู่มั้ว (จีน) 

ชื่อสามัญ :   Sesame 

ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Sesamum indicum  Linn. 

วงศ์ :   PEDALIACEAE 





ลักษณะทั่วไป 
      ต้น : เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นจะตั้งตรงถึงยอด และมีความสูงประมาณ 3 - 4 ฟุต 

       ใบ : ลักษณะของใบคล้ายกับใบหญ้างวงช้าง มีสีเขียวและมีขนปกคลุมอยู่เล็กน้อย

     ดอก : ออกดอกเดี่ยว มีสีขาวอมม่วง จะแตกดอกออกรอบ ๆ ลำต้นแล้วก็บิดมาอยู่ในแนวเดียวกัน ด้านหนึ่ง ดอกงามน่าดูมาก 

      ผล : ลักษณะของผลงาคล้ายกับผลโคโก้ ซึ่งมีขนาดโตเท่ากับนิ้วก้อย และเมื่อผลแก่เราจะถอนต้น ออกมาตากแห้ง ผลก็จะแตกเมล็ดที่อยู่ภายในผลมีจำนวนมาก


ประโยชน์ของงา




          งาเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 9 และไบโอติน โคลีน ไอโนสิตอล กรดพาราอะมิโนแบนโซอิค ซึ่งจะช่วยบำรุงประสาทให้เป็นไปอย่างปกติ นอกจากนี้ในงายังมีกรดไขมันไลโนลีอิกอยู่มากและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโต รวมถึงความสามารถในการเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนัง


          ดังนั้น ผู้ที่มีอาการเกิดจากระบบประสาท เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เป็นเหน็บชา ปวดเส้นตามตัว แขน ขา เบื่ออาหาร ท้องผูก หรือเมื่อยสายตา ควรหันมารับประทานงาเป็นประจำ  นอกจากนี้แล้วงายังเป็นอาหารต้านมะเร็งและช่วยชะลอความแก่อีกด้วย


          กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า งามีแคลเซียมมากกว่าพืชผักชนิดอื่นถึง 20 เท่า มีฟอสฟอรัสมากกว่าพืชผักอื่น ๆ 20 เท่า ซึ่งธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นแร่ธาตุที่สำคัญมาก ๆ ในการเสริมสร้างกระดูก นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงรากผม ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดบางชนิด


สรรพคุณทางยา 
          หากปัสสาวะ อุจจาระขัด ใช้เมล็ดงา 20-25 กรัม แช่ในน้ำเดือด หรือต้มรับประทานขณะท้องว่าง 
          ถ้าความดันโลหิตสูงให้ใช้ เมล็ดงา น้ำส้ม ซีอิ๊วและน้ำผึ้งอย่างละ 30 กรัม ผสมกับไข่ขาว 1 ฟอง คนให้เข้ากันแล้วต้มด้วยไฟอ่อน ๆ จนสุก รับประทานวันละ 3 ครั้งเป็นประจำ 
          ถ้าไอแห้ง ไม่มีเสมหะ ให้นำเมล็ดงา 250 กรัม น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม บดรวมกันรับประทานครั้งละ 15-20 กรัม จากนั้นนำผงที่ได้เติมน้ำเดือดไว้สัก 2-3 นาที ดื่มขณะยังอุ่น ๆ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
          หากต้องการกระตุ้นการงอกของเส้นผมก็สามารถใช้น้ำมันงา โดยไปเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตรอบ ๆ รูขุมขนบนหนังศีรษะ เพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวพรรณ และต้านอนุมูลอิสระ บำรุงเส้นผม ป้องกันการแก่ตัวและยืดอายุเซลล์ผิวหนังอีกด้วย




          และใช้น้ำมันงา ดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ ช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมนให้ เข้าสู่สภาวะสมดุล ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลายความตึงเครียด  ขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า เคล็ดขัดยอก ทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ เนื่องจากน้ำมันงาดิบสามารถซึมผ่านผนังได้ทุกชั้น.