วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

ไทรอยด์ โรคแห่งความร้อน

 รูปภาพ : ไทรอยด์ โรคแห่งความร้อน

ช่วงปีที่ผ่านมานี้ผมพบคนไข้ที่มีปัญหากับไทรอยด์แทบจะทุกวัน บางวันหลายคน ส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี แต่ละท่านต้องกินยากันทุกวัน บางท่านก็กลืนน้ำแร่แล้ว และก็ต้องกินฮอร์โมนตลอดชีวิต ทุกท่านที่เป็นโรคไทรอยด์ที่มาพบ ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะ ร่างกายขาดน้ำ และ กระเพาะอาหารไม่ย่อย

มารู้จักต่อมไทรอยด์กันก่อน ร่างกายเรานั้นมีต่อมอยู่มากมาย สามารถแบ่งเป็นต่อมขับหลั่งภายนอก กับต่อมขับหลั่งภายใน สารขับหลั่งภายนอกจะถูกขับออกมาทางท่อ ดังนั้นเราจึงเรียกว่า ต่อมมีท่อ เช่น ต่อมน้ำลาย ต่อมน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้ 

ส่วนต่อมขับหลั่งภายในนั้นไม่มีท่อ จึงเรียกว่าต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต ต่อมไทรอยด์ ซึ่งสารขับหลั่งจากต่อมไร้ท่อนี้ เรียกว่า ฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเข้าสู่เส้นเลือดฝอยที่อยู่รอบๆ ตัวต่อมโดยตรง และจะไหลไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายตามการไหลเวียนของเลือด

ต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่ด้านหน้าของลำคอ ต่อมนี้มี 2 พู แผ่ออกด้านข้างและคลุมพื้นที่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของหลอดลม “ไธร็อกซิน” เป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมไทรอยด์ สามารถเพิ่มปริมาณความร้อนในร่างกาย ซึ่งตรงกับหน้าที่ของหยางในไต ต่อมนี้มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข หากต่อมไทรอยด์นี้ทำงานผิดปกติมากหรือน้อยเกินไป จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะอื่นๆ

โรคของต่อมไทรอยด์มีหลายชนิด เช่นไฮเปอร์ไทรอยด์(ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ), ไฮโปไทรอยด์, ต่อมไทรอยด์อักเสบ, มะเร็งต่อมไทรอยด์

อาการที่จะบอกว่าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์(ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ) หรือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมาก เกินไป คือ ทั้งๆที่รับประทานอาหารมาก หิวบ่อย กินเก่ง แต่น้ำหนักตัวกลับลดลง เหนื่อยง่าย ใจสั่น ขี้ร้อน เคืองตา คันตา ตาอักเสบบ่อย หรือตาโปน

อาการที่จะบอกว่าเป็นไฮโปไทรอยด์ หรือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย เกินไป คือ รับประทานอาหารตามปกติ ไม่ได้หิวหรือกินมาก แต่น้ำหนักกลับเพิ่ม ตัวบวม หน้าบวม เฉื่อยชาเหมือนคนขี้เกียจ อ่อนเพลีย ขี้หนาว ผมร่วง ผิวแห้ง

ร่างกายขาดน้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นกับต่อมไทรอยด์ เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำ อวัยวะทั้งภายในและภายนอกก็จะพากันร้อนไปหมดโดยเฉพาะตับ เมื่อร้อนจะมีผลกระทบกับต่อมไทรอยด์นี้มาก เพราะเส้นลมปราณตับที่เดินผ่านจากตับขึ้นมาที่ลำคอ เดินเรียบขนานกับลำคอไปที่คอหอยซึ่งเป็นที่ตั้งของต่อมไทรอยด์ ขึ้นไปสู่ศีรษะ เมื่อตับร้อน ก็ส่งผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์นี้แน่นอน เหมือนถูกเผา 

พลังตับ หรือลมตับจะขึ้นสู่เบื้องบน อวัยวะส่วนไหนที่อยู่ใกล้ตับ หรืออยู่เหนือตับขึ้นไป ก็จะถูกเผาให้ร้อนไปตามๆ กัน ตามที่เราจะเห็นได้ว่า “ตาเป็นประตูของตับ” ตาแดง และเมื่อศีรษะร้อน หรือปวดหัวด้านบน ก็เพราะตับร้อนนี่แหละ

หลายท่านอาจจะเถียงคอเป็นเอ็นได้ว่าดื่มน้ำเยอะ ดื่มน้ำมาก วันละ 2-3 ลิตร หรือบางท่านบอกว่าดื่มตั้ง 5 ลิตร แล้วจะมาบอกว่าขาดน้ำได้อย่างไร 

ผมไม่ได้ว่าท่านดื่มน้ำน้อย แต่บอกว่า “ขาดน้ำ” ดื่มน้ำมากจริง แต่ดื่มแล้วร่างกายดูดซึมไว้ไม่ได้ เพราะเล่นดื่มครั้งละ 1-2 แก้ว หรือบางท่านดื่มทีละเป็นขวด ลำไส้เราดูดซึมรับไว้ไม่ทัน ปัสสาวะทิ้งหมด ดังที่ผมว่าเมื่อเราให้น้ำกับต้นไม้ น้ำหยดทีละหยด รากต้นไม้ดูดซึมทัน ต้นไม้ก็อยู่ได้ ไม่ขาดน้ำ แต่ถ้าเทรดลงไปเป็นถังๆ น้ำก็ไหลลงดินไปหมด ต้นไม้ดูดซึมซับไว้ไม่ทัน เปลืองน้ำ และต้นไม้ก็ขาดน้ำได้ เช่นเดียวกับคนเราถ้าดื่มน้ำมากๆ น้ำก็ไหลออกไปหมดเช่นกัน นี่คือการขาดน้ำตามที่ผมหมายความถึง

กระเพาะอาหารไม่ย่อย เมื่ออาหารที่เราทานเข้าไปไม่ย่อยแล้ว อาหารที่ว่าดีๆ นั้นก็พากันหมักเน่าเหม็น กลายเป็นถังหมักแก๊ส ที่ผลิตแก๊สพิษที่ร้อนทั้งวันทั้งคืนไม่มีเวลาพัก ธรรมชาติของความร้อนก็จะพุ่งขึ้นเบื้องบน ซึ่งก็ผ่านลำคอที่มีต่อมไทรอยด์ตั้งอยู่ ต่อมนี้ก็เลยต้องถูกไอร้อนพุ่งขึ้นจากกระเพาะอาหารและลำไส้เผาอยู่ตลอดเวลา ทุกวินาที 

จาก 2 กรณีตามที่ผมว่ามา ลองหลับตานึกวาดภาพปลาที่เขานำมาย่างรมควันบนเตาถ่านอยู่ ลักษณะจะเป็นอย่างไร มันจะแห้งจนกรอบเลยใช่ไหม แล้วต่อมไทรอยด์ของเราล่ะ มันจะอึดอดทนตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ได้อย่างไร เมื่อเขาถูกย่างไฟอยู่ตลอด มันก็ต้องเพี้ยนไปหมดแหละ ว่าไหมครับ

แล้วเราจะไปมัวแต่จะใช้ยาไปบีบบังคับเขาให้ทำงานอยู่อีกได้ไหม? เขาทำไม่ไหวหรอก เขาจะทำได้หรือในเมื่อตัวเขาเองยังถูกปิ้งย่างอยู่อย่างนั้น ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะไปช่วยใครได้อีกเล่า ผู้ที่มีปัญหากับไทรอยด์ ลองจับคอ หลัง ไหล่ จับศีรษะท่านดูเถอะ ว่ามันร้อนขนาดไหน คอก็จะแดง ตาก็จะแดง บางท่านตาโปนออกมา ก็เพราะไอความร้อนที่ดันพุ่งขึ้นดันลูกนัยน์ตาจนโปนออก ที่ทางการแพทย์เขาว่า ความดันลูกตาสูงนั่นแหละ อะไรมันจะดันได้ล่ะถ้าไม่ใช่ลมหรือแก๊ส 

คุณพรสิตา สุภาพสตรีวัย 45 ปี น้ำหนัก 43 กิโลกรัม เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ มีอาการเหนื่อย เหงื่อออกมาก หน้าตาแดง คอแดง ขี้เกียจ อยากนอนไม่อยากจะทำอะไร สมองตื้อคิดอะไรไม่ออก ตาหนักๆ เริ่มตาปูดโปนออกมาแล้ว รอบเดือนก็หายไป ซึมเศร้ารู้สึกหดหู่ ตอนนี้กินยาวันละ 3 เม็ด

“เคยเป็นมาก่อนแล้ว รักษาติดต่อกันมา 2 ปี ต้องพบหมอตรวจทุก 2 เดือน กินยาวันละ 5 เม็ด แล้วค่อยลดลงมา จนหายไปได้ 4 เดือน แล้วโรคนี้ก็กลับมาเยือนใหม่ หมอบอกว่าต้องกินยาตลอดชีวิต หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องกลืนน้ำแร่ แต่ต้องจองคิวเป็นเดือน ต้องอยู่ห้องพิเศษ เก็บตัวอยู่คนเดียว ลูกเต้าอยู่ด้วยไม่ได้ หนูได้ฟังก็กลัวแล้ว” เธอว่าให้ฟัง

พฤติกรรมของเธอ ดื่มน้ำวันละ 2-3 แก้ว เป็นน้ำเย็นช่วงรับประทานอาหาร ตื่นเช้าก็กาแฟร้อนก่อนเลย อาหารมื้อแรกกลายเป็นมื้อเที่ยง แล้วตามด้วยน้ำอัดลม บางมื้อตามด้วยน้ำผลไม้เป็นกล่องๆ ไม่ชอบทานผักและผลไม้นัก

อีกท่านหนึ่ง คือ คุณสุนทรีย์ อายุ 57 ปี น้ำหนัก 54 กก. เป็นโรคไทรอยด์ ตั้งแต่อายุ 16 ปี รักษาโดยการทานน้ำแร่กัมมันตรังสี และต้องทานยาฮอร์โมนตั้งแต่นั้นมา หมอบอกให้ทานตลอดชีวิต ถ้าไม่ทานยา ร่างกายจะไม่เผาผลาญ ทำให้อ้วน เฉื่อยชา พูดติดอ่าง 

นอกจากไทรอยด์แล้ว ยังมีอาการชาที่ฝ่าเท้า เจ็บเหมือนมีเข็มทิ่ม มือก็ชา เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว, กระพริบตาบ่อย โดยเฉพาะเวลาเครียด ขอบตาดำ เคยผ่าตัดซีสต์ และ ตัดมดลูกรังไข่ออกทั้งหมด 

ก็จะไม่ให้ป่วยขนาดนี้ได้อย่าง ไร ลองดูอาหารการกินของเธอ ทานแต่น้ำเย็นทั้งวัน, น้ำอัดลม แบบไดเอ็ทไม่ใส่น้ำตาล 3 กระป๋อง ตื่นเช้าก็ไม่ทานน้ำ ทั้งวันก็ทานน้ำ 3-4 แก้วเท่านั้น ทั้งๆที่ตามน้ำหนักตัวต้องทานน้ำ อย่างน้อย 1.8 ลิตร หรือ 9 แก้ว ทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ วันๆก็อยู่แต่ห้องแล็บ ซึ่งเป็นห้องแอร์ ไม่จำเป็นต้องทานน้ำเย็น แต่ก็ทานน้ำเย็นตลอด 

ผมได้แนะนำให้ทานอาหารผัก น้ำพริก, ข้าวกล้อง, งดน้ำเย็น, งดน้ำอัดลม และทานน้ำขั้นต่ำ 1.8 ลิตร ตามที่คำนวณ, นวด 10 ครั้ง ภายในเวลา 2 เดือน ปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยเริ่มดีขึ้น มีความสุขในการดำเนินชีวิต 

คุณพรสิตา ก็เป็นตามที่ผมว่ามา คือ ร่างกายขาดน้ำ และกระเพาะอาหารไม่ย่อย จนตัวร้อนเป็นไฟ โดยเฉพาะร่างกายช่วงบน ผมขูดพิษให้เธอดู โดยใช้น้ำมันมะพร้าวทาตรงคอ และไหล่แล้วเอาไม้ขูดพิษขูด ผิวหนังที่ถูกขูดจะแดงเป็นผื่นจนน่ากลัว คนไข้เห็นแล้วยังทำท่าตกใจเลย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ลองขูดพิษดูจะรู้สึกสบายตัวขึ้น 

…..............................

วิธีการที่จะบำบัดโรคไทรอยด์ ก็ต้องลดความร้อนในร่างกาย และทำให้ระบบย่อยอาหาร ย่อยได้ดีขึ้น

1 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเสียใหม่ รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ใช่ตื่นเช้าขึ้นมาก็ดื่มกาแฟแก้วเดียว เพื่อปลุกชีวิตให้คืนชีพ จะได้สดชื่น แล้วก็ไปรับประทานอาหารมื้อแรกเอาตอนเที่ยงวัน ร่างกายจะมีสารอาหารมาบำรุงซ่อมแซมร่างกายได้อย่างไร ควรนอนไม่เกิน 5 ทุ่ม เพื่อให้ถุงน้ำดีได้พัก และตับได้ทำงานที่ควรจะทำตามนาฬิกาชีวิต จะได้มีเรี่ยวแรงทำงานต่อไปได้

2 ต้องดื่มน้ำให้ถูกต้อง ถูกวิธี และดื่มน้ำให้พอเพียง 
การดื่ม น้ำที่ถูกวิธี
- ตื่นนอนดื่ม 2-3 แก้ว ช่วยให้เลือดไม่ข้น ห่างไกลโรคหัวใจ และไล่ของเสียออกจากร่างกาย
- ระหว่างวัน แบ่งดื่มให้ได้ วันละ 1.5-2 ลิตร โดยวิธีการแบ่งดื่มครั้งละ ครึ่งแก้ว
- ก่อนและหลังอาหาร 20 นาที ไม่ควรดื่มน้ำเกินครึ่งแก้ว เพื่อรักษาความเข้มข้นของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร 

3 ใช้สมุนไพรช่วยย่อยอาหาร เช่น ขมิ้น หรือ ขิง รับประทานก่อนอาหารทุกมื้อ จะเป็น แบบแคปซูล เป็นลูกกลอน หรือสดๆก็ได้ แนะนำยาโรคกระเพาะ(ขมิ้นชันแคปซูล)
วิธีทาน : 2 แคปซูล ก่อนอาหารทุกมื้อ

4 ใช้สมุนไพรเพื่อลดความร้อน และช่วยสงบตับ ดับพิษร้อน โดยมากจะเป็นอาหารรสขม หรือจืด 
- ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด มะระขี้นก ต้นลูกใต้ใบ ใบย่านาง รางจืด นำมาต้มกิน จะผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือใส่แคปซูลก็ได้ตามใจชอบ ต้มกินทีละอย่างเท่าที่หาได้ (ไม่ต้องหาให้ครบทุกอย่างก็ได้นะครับ)
- ต้นซาคาโฮ้ว (เสือสามขา) นำมาต้มกินต่างน้ำก็ได้
- ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน (ทั้งน้ำทั้งเนื้อ) ซักวันละลูก น้ำผักปั่นวันละ 2-3 แก้ว ช่วงท้องว่าง ขอให้รับประทานก่อนทานอาหารครึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง เพื่อดับพิษร้อน หรือทานเป็นมื้ออาหารเย็นโดยไม่ทานอาหารอื่นๆก็ได้ 

….............................

เคล็ดลับ 8 ประการในการดูแลสุขภาพ : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=614098041983750&set=a.417640581629498.95272.173200686073490&type=1&relevant_count=1




ช่วงปีที่ผ่านมานี้ผมพบคนไข้ที่มีปัญหากับไทรอยด์แทบจะทุกวัน บางวันหลายคน ส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี แต่ละท่านต้องกินยากันทุกวัน บางท่านก็กลืนน้ำแร่แล้ว และก็ต้องกินฮอร์โมนตลอดชีวิต ทุกท่านที่เป็นโรคไทรอยด์ที่มาพบ ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะ ร่างกายขาดน้ำ และ กระเพาะอาหารไม่ย่อย

มารู้จักต่อมไทรอยด์กันก่อน ร่างกายเรานั้นมีต่อมอยู่มากมาย สามารถแบ่งเป็นต่อมขับหลั่งภายนอก กับต่อมขับหลั่งภายใน สารขับหลั่งภายนอกจะถูกขับออกมาทางท่อ ดังนั้นเราจึงเรียกว่า ต่อมมีท่อ เช่น ต่อมน้ำลาย ต่อมน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้

ส่วนต่อมขับหลั่งภายในนั้นไม่มีท่อ จึงเรียกว่าต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต ต่อมไทรอยด์ ซึ่งสารขับหลั่งจากต่อมไร้ท่อนี้ เรียกว่า ฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเข้าสู่เส้นเลือดฝอยที่อยู่รอบๆ ตัวต่อมโดยตรง และจะไหลไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายตามการไหลเวียนของเลือด

ต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่ด้านหน้าของลำคอ ต่อมนี้มี 2 พู แผ่ออกด้านข้างและคลุมพื้นที่บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของหลอดลม “ไธร็อกซิน” เป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมไทรอยด์ สามารถเพิ่มปริมาณความร้อนในร่างกาย ซึ่งตรงกับหน้าที่ของหยางในไต ต่อมนี้มีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข หากต่อมไทรอยด์นี้ทำงานผิดปกติมากหรือน้อยเกินไป จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะอื่นๆ

โรคของต่อมไทรอยด์มีหลายชนิด เช่นไฮเปอร์ไทรอยด์(ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ), ไฮโปไทรอยด์, ต่อมไทรอยด์อักเสบ, มะเร็งต่อมไทรอยด์

อาการที่จะบอกว่าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์(ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ) หรือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมาก เกินไป คือ ทั้งๆที่รับประทานอาหารมาก หิวบ่อย กินเก่ง แต่น้ำหนักตัวกลับลดลง เหนื่อยง่าย ใจสั่น ขี้ร้อน เคืองตา คันตา ตาอักเสบบ่อย หรือตาโปน

อาการที่จะบอกว่าเป็นไฮโปไทรอยด์ หรือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย เกินไป คือ รับประทานอาหารตามปกติ ไม่ได้หิวหรือกินมาก แต่น้ำหนักกลับเพิ่ม ตัวบวม หน้าบวม เฉื่อยชาเหมือนคนขี้เกียจ อ่อนเพลีย ขี้หนาว ผมร่วง ผิวแห้ง

ร่างกายขาดน้ำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นกับต่อมไทรอยด์ เพราะเมื่อร่างกายขาดน้ำ อวัยวะทั้งภายในและภายนอกก็จะพากันร้อนไปหมดโดยเฉพาะตับ เมื่อร้อนจะมีผลกระทบกับต่อมไทรอยด์นี้มาก เพราะเส้นลมปราณตับที่เดินผ่านจากตับขึ้นมาที่ลำคอ เดินเรียบขนานกับลำคอไปที่คอหอยซึ่งเป็นที่ตั้งของต่อมไทรอยด์ ขึ้นไปสู่ศีรษะ เมื่อตับร้อน ก็ส่งผลกระทบต่อต่อมไทรอยด์นี้แน่นอน เหมือนถูกเผา

พลังตับ หรือลมตับจะขึ้นสู่เบื้องบน อวัยวะส่วนไหนที่อยู่ใกล้ตับ หรืออยู่เหนือตับขึ้นไป ก็จะถูกเผาให้ร้อนไปตามๆ กัน ตามที่เราจะเห็นได้ว่า “ตาเป็นประตูของตับ” ตาแดง และเมื่อศีรษะร้อน หรือปวดหัวด้านบน ก็เพราะตับร้อนนี่แหละ

หลายท่านอาจจะเถียงคอเป็นเอ็นได้ว่าดื่มน้ำเยอะ ดื่มน้ำมาก วันละ 2-3 ลิตร หรือบางท่านบอกว่าดื่มตั้ง 5 ลิตร แล้วจะมาบอกว่าขาดน้ำได้อย่างไร

ผมไม่ได้ว่าท่านดื่มน้ำน้อย แต่บอกว่า “ขาดน้ำ” ดื่มน้ำมากจริง แต่ดื่มแล้วร่างกายดูดซึมไว้ไม่ได้ เพราะเล่นดื่มครั้งละ 1-2 แก้ว หรือบางท่านดื่มทีละเป็นขวด ลำไส้เราดูดซึมรับไว้ไม่ทัน ปัสสาวะทิ้งหมด ดังที่ผมว่าเมื่อเราให้น้ำกับต้นไม้ น้ำหยดทีละหยด รากต้นไม้ดูดซึมทัน ต้นไม้ก็อยู่ได้ ไม่ขาดน้ำ แต่ถ้าเทรดลงไปเป็นถังๆ น้ำก็ไหลลงดินไปหมด ต้นไม้ดูดซึมซับไว้ไม่ทัน เปลืองน้ำ และต้นไม้ก็ขาดน้ำได้ เช่นเดียวกับคนเราถ้าดื่มน้ำมากๆ น้ำก็ไหลออกไปหมดเช่นกัน นี่คือการขาดน้ำตามที่ผมหมายความถึง

กระเพาะอาหารไม่ย่อย เมื่ออาหารที่เราทานเข้าไปไม่ย่อยแล้ว อาหารที่ว่าดีๆ นั้นก็พากันหมักเน่าเหม็น กลายเป็นถังหมักแก๊ส ที่ผลิตแก๊สพิษที่ร้อนทั้งวันทั้งคืนไม่มีเวลาพัก ธรรมชาติของความร้อนก็จะพุ่งขึ้นเบื้องบน ซึ่งก็ผ่านลำคอที่มีต่อมไทรอยด์ตั้งอยู่ ต่อมนี้ก็เลยต้องถูกไอร้อนพุ่งขึ้นจากกระเพาะอาหารและลำไส้เผาอยู่ตลอดเวลา ทุกวินาที

จาก 2 กรณีตามที่ผมว่ามา ลองหลับตานึกวาดภาพปลาที่เขานำมาย่างรมควันบนเตาถ่านอยู่ ลักษณะจะเป็นอย่างไร มันจะแห้งจนกรอบเลยใช่ไหม แล้วต่อมไทรอยด์ของเราล่ะ มันจะอึดอดทนตั้งหน้าตั้งตาทำงานอยู่ได้อย่างไร เมื่อเขาถูกย่างไฟอยู่ตลอด มันก็ต้องเพี้ยนไปหมดแหละ ว่าไหมครับ

แล้วเราจะไปมัวแต่จะใช้ยาไปบีบบังคับเขาให้ทำงานอยู่อีกได้ไหม? เขาทำไม่ไหวหรอก เขาจะทำได้หรือในเมื่อตัวเขาเองยังถูกปิ้งย่างอยู่อย่างนั้น ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด แล้วจะไปช่วยใครได้อีกเล่า ผู้ที่มีปัญหากับไทรอยด์ ลองจับคอ หลัง ไหล่ จับศีรษะท่านดูเถอะ ว่ามันร้อนขนาดไหน คอก็จะแดง ตาก็จะแดง บางท่านตาโปนออกมา ก็เพราะไอความร้อนที่ดันพุ่งขึ้นดันลูกนัยน์ตาจนโปนออก ที่ทางการแพทย์เขาว่า ความดันลูกตาสูงนั่นแหละ อะไรมันจะดันได้ล่ะถ้าไม่ใช่ลมหรือแก๊ส

คุณพรสิตา สุภาพสตรีวัย 45 ปี น้ำหนัก 43 กิโลกรัม เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ มีอาการเหนื่อย เหงื่อออกมาก หน้าตาแดง คอแดง ขี้เกียจ อยากนอนไม่อยากจะทำอะไร สมองตื้อคิดอะไรไม่ออก ตาหนักๆ เริ่มตาปูดโปนออกมาแล้ว รอบเดือนก็หายไป ซึมเศร้ารู้สึกหดหู่ ตอนนี้กินยาวันละ 3 เม็ด

“เคยเป็นมาก่อนแล้ว รักษาติดต่อกันมา 2 ปี ต้องพบหมอตรวจทุก 2 เดือน กินยาวันละ 5 เม็ด แล้วค่อยลดลงมา จนหายไปได้ 4 เดือน แล้วโรคนี้ก็กลับมาเยือนใหม่ หมอบอกว่าต้องกินยาตลอดชีวิต หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องกลืนน้ำแร่ แต่ต้องจองคิวเป็นเดือน ต้องอยู่ห้องพิเศษ เก็บตัวอยู่คนเดียว ลูกเต้าอยู่ด้วยไม่ได้ หนูได้ฟังก็กลัวแล้ว” เธอว่าให้ฟัง

พฤติกรรมของเธอ ดื่มน้ำวันละ 2-3 แก้ว เป็นน้ำเย็นช่วงรับประทานอาหาร ตื่นเช้าก็กาแฟร้อนก่อนเลย อาหารมื้อแรกกลายเป็นมื้อเที่ยง แล้วตามด้วยน้ำอัดลม บางมื้อตามด้วยน้ำผลไม้เป็นกล่องๆ ไม่ชอบทานผักและผลไม้นัก

อีกท่านหนึ่ง คือ คุณสุนทรีย์ อายุ 57 ปี น้ำหนัก 54 กก. เป็นโรคไทรอยด์ ตั้งแต่อายุ 16 ปี รักษาโดยการทานน้ำแร่กัมมันตรังสี และต้องทานยาฮอร์โมนตั้งแต่นั้นมา หมอบอกให้ทานตลอดชีวิต ถ้าไม่ทานยา ร่างกายจะไม่เผาผลาญ ทำให้อ้วน เฉื่อยชา พูดติดอ่าง

นอกจากไทรอยด์แล้ว ยังมีอาการชาที่ฝ่าเท้า เจ็บเหมือนมีเข็มทิ่ม มือก็ชา เป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว, กระพริบตาบ่อย โดยเฉพาะเวลาเครียด ขอบตาดำ เคยผ่าตัดซีสต์ และ ตัดมดลูกรังไข่ออกทั้งหมด

ก็จะไม่ให้ป่วยขนาดนี้ได้อย่าง ไร ลองดูอาหารการกินของเธอ ทานแต่น้ำเย็นทั้งวัน, น้ำอัดลม แบบไดเอ็ทไม่ใส่น้ำตาล 3 กระป๋อง ตื่นเช้าก็ไม่ทานน้ำ ทั้งวันก็ทานน้ำ 3-4 แก้วเท่านั้น ทั้งๆที่ตามน้ำหนักตัวต้องทานน้ำ อย่างน้อย 1.8 ลิตร หรือ 9 แก้ว ทำงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ วันๆก็อยู่แต่ห้องแล็บ ซึ่งเป็นห้องแอร์ ไม่จำเป็นต้องทานน้ำเย็น แต่ก็ทานน้ำเย็นตลอด

ผมได้แนะนำให้ทานอาหารผัก น้ำพริก, ข้าวกล้อง, งดน้ำเย็น, งดน้ำอัดลม และทานน้ำขั้นต่ำ 1.8 ลิตร ตามที่คำนวณ, นวด 10 ครั้ง ภายในเวลา 2 เดือน ปรากฏว่าอาการเจ็บป่วยเริ่มดีขึ้น มีความสุขในการดำเนินชีวิต

คุณพรสิตา ก็เป็นตามที่ผมว่ามา คือ ร่างกายขาดน้ำ และกระเพาะอาหารไม่ย่อย จนตัวร้อนเป็นไฟ โดยเฉพาะร่างกายช่วงบน ผมขูดพิษให้เธอดู โดยใช้น้ำมันมะพร้าวทาตรงคอ และไหล่แล้วเอาไม้ขูดพิษขูด ผิวหนังที่ถูกขูดจะแดงเป็นผื่นจนน่ากลัว คนไข้เห็นแล้วยังทำท่าตกใจเลย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ ลองขูดพิษดูจะรู้สึกสบายตัวขึ้น

…..............................

วิธีการที่จะบำบัดโรคไทรอยด์ ก็ต้องลดความร้อนในร่างกาย และทำให้ระบบย่อยอาหาร ย่อยได้ดีขึ้น

1 ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตเสียใหม่ รับประทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ใช่ตื่นเช้าขึ้นมาก็ดื่มกาแฟแก้วเดียว เพื่อปลุกชีวิตให้คืนชีพ จะได้สดชื่น แล้วก็ไปรับประทานอาหารมื้อแรกเอาตอนเที่ยงวัน ร่างกายจะมีสารอาหารมาบำรุงซ่อมแซมร่างกายได้อย่างไร ควรนอนไม่เกิน 5 ทุ่ม เพื่อให้ถุงน้ำดีได้พัก และตับได้ทำงานที่ควรจะทำตามนาฬิกาชีวิต จะได้มีเรี่ยวแรงทำงานต่อไปได้

2 ต้องดื่มน้ำให้ถูกต้อง ถูกวิธี และดื่มน้ำให้พอเพียง
การดื่ม น้ำที่ถูกวิธี
- ตื่นนอนดื่ม 2-3 แก้ว ช่วยให้เลือดไม่ข้น ห่างไกลโรคหัวใจ และไล่ของเสียออกจากร่างกาย
- ระหว่างวัน แบ่งดื่มให้ได้ วันละ 1.5-2 ลิตร โดยวิธีการแบ่งดื่มครั้งละ ครึ่งแก้ว
- ก่อนและหลังอาหาร 20 นาที ไม่ควรดื่มน้ำเกินครึ่งแก้ว เพื่อรักษาความเข้มข้นของน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร

3 ใช้สมุนไพรช่วยย่อยอาหาร เช่น ขมิ้น หรือ ขิง รับประทานก่อนอาหารทุกมื้อ จะเป็น แบบแคปซูล เป็นลูกกลอน หรือสดๆก็ได้ แนะนำยาโรคกระเพาะ(ขมิ้นชันแคปซูล)
วิธีทาน : 2 แคปซูล ก่อนอาหารทุกมื้อ

4 ใช้สมุนไพรเพื่อลดความร้อน และช่วยสงบตับ ดับพิษร้อน โดยมากจะเป็นอาหารรสขม หรือจืด
- ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด มะระขี้นก ต้นลูกใต้ใบ ใบย่านาง รางจืด นำมาต้มกิน จะผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอน หรือใส่แคปซูลก็ได้ตามใจชอบ ต้มกินทีละอย่างเท่าที่หาได้ (ไม่ต้องหาให้ครบทุกอย่างก็ได้นะครับ)
- ต้นซาคาโฮ้ว (เสือสามขา) นำมาต้มกินต่างน้ำก็ได้
- ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน (ทั้งน้ำทั้งเนื้อ) ซักวันละลูก น้ำผักปั่นวันละ 2-3 แก้ว ช่วงท้องว่าง ขอให้รับประทานก่อนทานอาหารครึ่งชั่วโมง หรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง เพื่อดับพิษร้อน หรือทานเป็นมื้ออาหารเย็นโดยไม่ทานอาหารอื่นๆก็ได้ 



ที่มา: Herbale

1 ความคิดเห็น:

  1. …ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์ เรื่อง ทานยาต้มสมุนไพรรักษาไทรอยด์เป็นพิษ สูตร พระอาจารย์สัจจานะคะ....ส่วนตัวเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ(hyperthyroidism) มานาน 6 ปี ทานยารักษามาตลอด ขอเล่าตั้งแต่แรกที่เป็นเลยนะคะ 2 ปีแรกกินยา หายค่ะ หายแค่ 2 เดือน แล้วกลับมาเป็นซ้ำอีกคะ จากนั้นก็ได้ทานยามาตลอด จนครบ 6 ปี หมอบอกว่าทานยานานเกินไป ต้องเปลี่ยนวิธีการรักษา หมอเลยสั่งให้ไปกลืนแร่ ไอโอดีนคะ(กลืนที่รพ.ราชวิถี)
    พอหลังจากนั้น 3 เดือน หมอนัดไปตรวจ ปรากฏว่า กลายเป็น ไฮโปไทรอยด์ หมายถึง ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำหนะคะ (Hypothyroidism)
    จากนั้นหมอก็ให้ทาน ฮอร์โมนเสริม ไปตลอดชีวิตคะ (จากนั้นเครียดมากคะ ที่จะต้องทานยาไปตลอด)พอหลังจากทานยาฮอร์โมนได้ประมาณ 3 เดือน มีอาการเหนื่อย เพลีย เลยไปตรวจที่รพ. ตรวจเลือดผลออกมาว่า กลับมาเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เหมือนเดิมคะ จากนั้น ก็ค้นคว้าหาวิธีรักษาแนวอื่นบ้าง เพราะรักษาทางรพ.มานานมากแต่ไม่เคยหายขาดคะ แล้วก็เจอสูตรยาต้มสมุนไพร จากพระอาจารย์สัจจา ในกระทู้ pantip ค่ะ ได้เบอร์โทรมา เคยโทรไปปรึกษาพระอาจารย์ แล้วเล่าเรื่องให้ฟัง พระอาจารย์บอกว่า "ถ้าเคยกลืนแร่แล้ว สมุนไพรคงรักษาไม่ได้"
    แต่ยังไม่หมดหวังคะ. ก็เลยนำสูตรยาต้ม(มี สมุนไพร 3 อย่าง..ต้นแดง นมนาง ค้อแลน)มา ให้คุณแม่ต้มให้ทาน เป็นเวลา เกือบ 4 เดือนคะ และงดอาหารแสลง ตามที่พระอาจารย์บอก และกินยาเม็ดของรพ.ควบคู่ไปด้วยคะ จากนั้น หมอนัดตรวจเลือดคะ ปรากฏว่าผลออกมา ปกติทุกอย่างคะ หมอบอกว่าหายจากโรคไทรอยด์แล้ว(ดีใจมากคะ) อาการก็ดีขึ้น สุขภาพแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และร่างกายก็กลับเป็นปกติทุกอย่างคะ 😁ตอนนี้ หายจากโรค มา 1 ปีแล้วคะ ไม่ได้ทานยาอะไรเลยคะ
    (นี่เป็นส่วนหนึ่ง ที่มาบอกเล่าเรื่องการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษนะคะ.จะเป็นเพราะอะไรที่ทำให้หายนั้น ก็บอกไม่ได้เหมือนกันนะคะ ที่สำคัญต้องปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในเรื่องการกินนะคะ)
    สุดท้ายนี้..ขอขอบพระคุณพระอาจารย์อย่างสูงคะ ที่นำสูตรยา มาบอกเป็นวิทยาทานให้นะคะ🙏🏻🙏🏻สาธุ...
    ไอดีไลน์:sajjatara

    ตอบลบ