วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สปาผม


รูปภาพ : มาทำ"สปาผม"กันค่ะ^_^

         ในยุคที่แฟชั่นเปลี่ยนสีผมได้รับความนิยมสูงในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นสาวใหญ่ สาวน้อย หรือชายเจ้าสำอาง ต่างย้อมสีผมให้เห้นอยู่ทุกมุมเมือง ทว่าย้อมบ่อยครั้งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้สุขภาพเส้นผมที่เคยเงาสลวยแตกปลายหรือกระด้าง
          การคืนสู่ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จึงมีการคิดสูตรแชมพูและครีมนวดสูตรต่าง ๆ ที่ทำจากสมุนไพรสด เช่น มะกรูด ขิง ตะไคร้ ประคำดีควาย อันชัน ว่านหางจระเข้ และถั่วเหลือง "สปาผม" นอกจากจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้แล้ว ยังจะต้องมีความรู้ในเรื่องการนวดศรีษะ ต้นคอ ไหล่และหลังควบคู่ไปด้วย ซึ่งขั้นตอนการนวดจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนที่เป็นส่วนสำคัยในการช่วยให้สุขภาพของผมและหนังศรีษะดีขึ้น

►►สำหรับขั้นตอนการทำ "สปาผม"
คือขั้นตอนการดูแลหนังศรีษะและเส้นผม ที่เริ่มจากการสระผมให้สะอาด แล้วหมักด้วยครีมดีทอกซ์  ที่ช่วยในการล้างพิษและเชื้อโรคบนหนังศรีษะ  และยังช่วยเปิดกระเปาะผม  ที่จะช่วยให้เซลล์ผมงอกได้ง่าย ในระหว่างที่หมัก จะมีการนวดศรีษะร่วมด้วย เพื่อให้เลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงหนังศรีษะและรากผม แล้วทิ้งไวประมาณ 15 นาที  หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดหมาดๆ ใส่แฮร์โทนิคบำรุงรากผม

►►ก่อนที่เราจะทำ "สปาผม" เราควรรู้เกี่ยวกับสภาพเส้นผมของแต่ละชนิดของเส้นผมเสียก่อน
ลักษณะเส้นผมของคนเราไม่เหมือนกันมีทั้งเส้นผมหนา ผมเส้นเล้ก ผมสั้น ผมยาว บ้างผมสั้นเหมือนกัน ผมยาวเหมือนกัน แต่ลักษณะเส้นผมไม่เหมือนกัน ทำให้การบำรุงและรักษาดูแลก็จะแตกต่างกันไปตาม ลักษณะของเส้นผม เรามาทำความรู้จักเส้นผมก่อนการบำรุงนะคะ

•ผมแห้ง กับการทำ "สปาผม"  

ลักษณะของผมแห้งคือ ผมที่ขาดน้ำหนัก ไม่มีน้ำมันจากหนังศรีษะมาหล่อเลี้ยงทำให้ผมแห้ง และไม่มีความเงางามของเส้นผม  และอาจจะส่งผลทำให้ผมแห้งเสียแตกปลาย เกิดรังแค และหนังศรีษะแห้ง  สาเหตุสำคัญของการเกิดผมแห้งเสีย คือการย้อม ดัด กัดสีผม โดนความร้อนจากไดร์เป่าผม  ความร้อนจากแสงอาทิตย์  การว่ายน้ำในสระ หรือน้ำทะเล  ก็ทำให้ผมแห้งเสียได้  ปัญหาเหล่านี้ ถ้าเราปล่อยละเลยและไม่บำรุงจะทำให้เส้นผมแห้งเสียอย่างรุนแรงได้  ดังนั้นสำหรับผมแห้งควรใช้ครีมนวดผมหลังสระและนวดบริเวณหนังศรีษะ เพื่อกระตุ้นให้หนังศรีาะสร้างน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเส้นผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
•ผมมัน กับการทำ "สปาผม"
เนื่องจากมีการผลิตน้ำมันจากหนังศรีษะมากจนเกินไป ทำให้ดูเหนียวเหนอะหนะ และมีฝุ่น ละออง มาเกาะตามเส้นผม ทำให้ผมขาดชีวิตชีวา  จัดแต่งทรงผมยาก เพราะฉะนั้นคนทีมีผมมันหมั่นสระผมบ่อยๆ ไม่ต้องใช้ครีมนวดแต่ถ้าต้องใช้ ก็นวดตรงบริเวณปลายผม เพราะถ้านวดบริเวณหนังศรีษะก็ จะกระตุ้นให้หนังศรีษะผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น

•ผมเส้นเล้ก กับการทำ "สปาผม"

ลักษณะของผมเส้นเล้ก เป็นผมลีบแบนจิดหนังศรีษะ  แต่เนื่องจากผมเส้นเล็กเป็นผมที่เรียงกันสวย ไม่ยุ่งเหยิง เพราะฉะนั้นเราควรจะใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน และไม่เข้มข้นในการสระและนวด เพราะถ้าเราใช้ครีมชโลมผมมากเกินไป ก็จะทำให้ดูลีบแบนเข้าไปอีก ดูไม่สวยงาม ดังนั้น เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับเส้นผม

•ผมธรรมดา กับการทำ "สปาผม"

จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะผมธรรมดา จะมีสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำให้เส้นผมมีความนุ่ม สลวย เงางาม  ผมธรรมดาจึงใช้ผลิตพัณฑ์ได้ง่ายในการดูแลบำรุงเส้นผม  แต่ถึงอย่างไรก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเส้นผมถึงจะดี

•ผมหยักศก กับการทำ "สปาผม"

ลักษณะของผมหยักศกคือหยิกตามธรรมชาติแล้วแต่ว่าผมจะหยิกมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม ผมหยักศกจะจัดแต่งทรงค่อนข้างยากเพราะว่าจะจัดแต่งทรงได้เพียงไม่กี่ทรง เนื่องจากผมจะดูชี้ฟูและแห้งฉะนั้นในการดูแลผมหยักศกเบื้องต้นคือใช้แชมพูที่มีความอ่อนโยนต่อเส้นผม เวลาแปรงผมควรแปรงด้วยความอ่อนนุ่มและเบามือ และไม่ควรหวีผมหรือแปรงผมบ่อยหรือถ้าผมดูยุ่งก็ใช้มือสางเบา ๆ ได้ นอกจากนี้เวลานวดผมควรนวดบริเวณหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นให้มีการบำรุงตามธรรมชาติ หลังจากนั้นนวดกลางผมไล่ไปถึงปลายผม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบเจลจะดีกว่า เพราะจะช่วยลดความหยาบกระด้างของเส้นผมได้เป็นอย่างดี

•ผมเส้นหนา กับการทำ "สปาผม"

เป็นผมที่มีน้ำหนักดูนุ่มสลวย เวลาสะบัดผมจะดูพลิ้วไหว มีชีวิตชีวา ไม่ลีบแบน ติดหนังศรีษะ  ลักษณะของผมหนา เวลาสระผมต้องล้างให้สะอาด เพราะถ้าล้างไม่สะอาดอาจมีสารเคมีตกค้างที่เส้นผมได้  อย่างไรก็ตามอย่าขาดการบำรุงผมจะดูยุ่ง ฟู และขาดน้ำหนักได้

•ผมย้อม ดัด กัด โกรก หรือผมเสีย กับการทำ "สปาผม"

ปัจจุบันนิยมที่จะย้อม ดัด กัดโกรกเส้นผมกันมากขึ้นเพื่อให้เขากับบุคคลิก  เนื่องจากการกระทำกับผมแบบนี้ อาจส่งผลทำให้ผมแห้งเสียได้ เราจึงต้องใส่ใจดูแลบำรุงมากกว่าผมแบบอื่นเป็นพิเศษ  ฉะนั้นการอบไอน้ำก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้ผมนุ่มมากขึ้น และการหมักผมอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็ช่วยให้ดีขึ้นได้  ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเส้นผม  แต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพื่อผมที่ทำสี ย้อม ดัด กัด โกรก โดยตรง

ผมตรงยาว กับการทำ "สปาผม"

เป็นผมที่ดูแลค่อนข้างง่าย แต่ก็ไม่สามารถจะละเลยในการดูแลได้เพราะว่าผมตรงที่ยาวมากๆ ปลายผมก็จะต้องได้รับการดูแลด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายผมแห้งแตกปลาย  ดังนั้นเวลาสระผม  จึงต้องล้างผมให้สะอาด และบำรุงด้วยครีมนวดผม  เวลานวดควรนวดบริเวณปลายผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น  เพราะน้ำมันธรรมชาติไม่สามารถมาเลี้ยงถึงปลายผมได้  เพราะฉะนั้นอย่างขาดการดูไม่อย่างนั้นแล้วผมแห้งแตกปลายแน่

►►แนะนำสูตรครีมดีท็อกซ์ผม สำหรับการทำ "สปาผม" แบบง่าย ๆ แต่ได้ผลดีเกินคุ้ม
•สูตรครีมดท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 1
ใช้โยเกิร์ตผสมกับน้ำมันมะกอก หมักผมทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชม. ก่อนสระผมหรือถ้ามีเวลาให้หมักไว้นานกว่านั้น ผมจะสวยปิ้งจริง ๆ
•สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 2
ใช้หัวกะทิคั้นสด ๆ ผสมกับน้ำมันมะกรูด หมักไว้ รับรองผมจะเงา ดำ มัน นุ่มแบบธรรมชาติ
•สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 3
ใช้มายองเนสหรือน้ำมันมะพร้าว จะทำให้เส้นผมนุ่มตามธรรมชาติ
•สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 4
ใช้โยเกิร์ต ผสมน้ำมันมะกอก ผสมไข่แดง ผสมน้ำผึ้ง สรรพคุณเกินคำบรรยาย

ว่างๆๆก็ลองทำกันดูค่ะ
 
 
      ในยุคที่แฟชั่นเปลี่ยนสีผมได้รับความนิยมสูงในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นสาวใหญ่ สาวน้อย หรือชายเจ้าสำอาง ต่างย้อมสีผมให้เห้นอยู่ทุกมุมเมือง ทว่าย้อมบ่อยครั้งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้สุขภาพเส้นผมที่เคยเงาสลวยแตก ปลายหรือกระด้าง
การคืนสู่ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุด จึงมีการคิดสูตรแชมพูและครีมนวดสูตรต่าง ๆ ที่ทำจากสมุนไพรสด เช่น มะกรูด ขิง ตะไคร้ ประคำดีควาย อันชัน ว่านหางจระเข้ และถั่วเหลือง "สปาผม" นอกจากจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และวิธีการใช้แล้ว ยังจะต้องมีความรู้ในเรื่องการนวดศรีษะ ต้นคอ ไหล่และหลังควบคู่ไปด้วย ซึ่งขั้นตอนการนวดจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนที่เป็นส่วนสำคัยในการช่วยให้ สุขภาพของผมและหนังศรีษะดีขึ้น

►►สำหรับขั้นตอนการทำ "สปาผม"
คือขั้นตอนการดูแลหนังศรีษะและเส้นผม ที่เริ่มจากการสระผมให้สะอาด แล้วหมักด้วยครีมดีทอกซ์ ที่ช่วยในการล้างพิษและเชื้อโรคบนหนังศรีษะ และยังช่วยเปิดกระเปาะผม ที่จะช่วยให้เซลล์ผมงอกได้ง่าย ในระหว่างที่หมัก จะมีการนวดศรีษะร่วมด้วย เพื่อให้เลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงหนังศรีษะและรากผม แล้วทิ้งไวประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดหมาดๆ ใส่แฮร์โทนิคบำรุงรากผม

►►ก่อนที่เราจะทำ "สปาผม" เราควรรู้เกี่ยวกับสภาพเส้นผมของแต่ละชนิดของเส้นผมเสียก่อน
ลักษณะเส้นผมของคนเราไม่เหมือนกันมีทั้งเส้นผมหนา ผมเส้นเล้ก ผมสั้น ผมยาว บ้างผมสั้นเหมือนกัน ผมยาวเหมือนกัน แต่ลักษณะเส้นผมไม่เหมือนกัน ทำให้การบำรุงและรักษาดูแลก็จะแตกต่างกันไปตาม ลักษณะของเส้นผม เรามาทำความรู้จักเส้นผมก่อนการบำรุงนะคะ

•ผมแห้ง กับการทำ "สปาผม"

ลักษณะของผมแห้งคือ ผมที่ขาดน้ำหนัก ไม่มีน้ำมันจากหนังศรีษะมาหล่อเลี้ยงทำให้ผมแห้ง และไม่มีความเงางามของเส้นผม และอาจจะส่งผลทำให้ผมแห้งเสียแตกปลาย เกิดรังแค และหนังศรีษะแห้ง สาเหตุสำคัญของการเกิดผมแห้งเสีย คือการย้อม ดัด กัดสีผม โดนความร้อนจากไดร์เป่าผม ความร้อนจากแสงอาทิตย์ การว่ายน้ำในสระ หรือน้ำทะเล ก็ทำให้ผมแห้งเสียได้ ปัญหาเหล่านี้ ถ้าเราปล่อยละเลยและไม่บำรุงจะทำให้เส้นผมแห้งเสียอย่างรุนแรงได้ ดังนั้นสำหรับผมแห้งควรใช้ครีมนวดผมหลังสระและนวดบริเวณหนังศรีษะ เพื่อกระตุ้นให้หนังศรีาะสร้างน้ำมันมาหล่อเลี้ยงเส้นผมเพื่อเพิ่มความชุ่ม ชื้น
•ผมมัน กับการทำ "สปาผม"
เนื่องจากมีการผลิตน้ำมันจากหนังศรีษะมากจนเกินไป ทำให้ดูเหนียวเหนอะหนะ และมีฝุ่น ละออง มาเกาะตามเส้นผม ทำให้ผมขาดชีวิตชีวา จัดแต่งทรงผมยาก เพราะฉะนั้นคนทีมีผมมันหมั่นสระผมบ่อยๆ ไม่ต้องใช้ครีมนวดแต่ถ้าต้องใช้ ก็นวดตรงบริเวณปลายผม เพราะถ้านวดบริเวณหนังศรีษะก็ จะกระตุ้นให้หนังศรีษะผลิตน้ำมันออกมามากยิ่งขึ้น

•ผมเส้นเล้ก กับการทำ "สปาผม"

ลักษณะของผมเส้นเล้ก เป็นผมลีบแบนจิดหนังศรีษะ แต่เนื่องจากผมเส้นเล็กเป็นผมที่เรียงกันสวย ไม่ยุ่งเหยิง เพราะฉะนั้นเราควรจะใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยน และไม่เข้มข้นในการสระและนวด เพราะถ้าเราใช้ครีมชโลมผมมากเกินไป ก็จะทำให้ดูลีบแบนเข้าไปอีก ดูไม่สวยงาม ดังนั้น เราควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับเส้นผม

•ผมธรรมดา กับการทำ "สปาผม"

จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเพราะผมธรรมดา จะมีสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำให้เส้นผมมีความนุ่ม สลวย เงางาม ผมธรรมดาจึงใช้ผลิตพัณฑ์ได้ง่ายในการดูแลบำรุงเส้นผม แต่ถึงอย่างไรก็ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเส้นผมถึงจะดี

•ผมหยักศก กับการทำ "สปาผม"

ลักษณะของผมหยักศกคือหยิกตามธรรมชาติแล้วแต่ว่าผมจะหยิกมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม ผมหยักศกจะจัดแต่งทรงค่อนข้างยากเพราะว่าจะจัดแต่งทรงได้เพียงไม่กี่ทรง เนื่องจากผมจะดูชี้ฟูและแห้งฉะนั้นในการดูแลผมหยักศกเบื้องต้นคือใช้แชมพู ที่มีความอ่อนโยนต่อเส้นผม เวลาแปรงผมควรแปรงด้วยความอ่อนนุ่มและเบามือ และไม่ควรหวีผมหรือแปรงผมบ่อยหรือถ้าผมดูยุ่งก็ใช้มือสางเบา ๆ ได้ นอกจากนี้เวลานวดผมควรนวดบริเวณหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นให้มีการบำรุงตาม ธรรมชาติ หลังจากนั้นนวดกลางผมไล่ไปถึงปลายผม ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบเจลจะดีกว่า เพราะจะช่วยลดความหยาบกระด้างของเส้นผมได้เป็นอย่างดี

•ผมเส้นหนา กับการทำ "สปาผม"

เป็นผมที่มีน้ำหนักดูนุ่มสลวย เวลาสะบัดผมจะดูพลิ้วไหว มีชีวิตชีวา ไม่ลีบแบน ติดหนังศรีษะ ลักษณะของผมหนา เวลาสระผมต้องล้างให้สะอาด เพราะถ้าล้างไม่สะอาดอาจมีสารเคมีตกค้างที่เส้นผมได้ อย่างไรก็ตามอย่าขาดการบำรุงผมจะดูยุ่ง ฟู และขาดน้ำหนักได้

•ผมย้อม ดัด กัด โกรก หรือผมเสีย กับการทำ "สปาผม"

ปัจจุบันนิยมที่จะย้อม ดัด กัดโกรกเส้นผมกันมากขึ้นเพื่อให้เขากับบุคคลิก เนื่องจากการกระทำกับผมแบบนี้ อาจส่งผลทำให้ผมแห้งเสียได้ เราจึงต้องใส่ใจดูแลบำรุงมากกว่าผมแบบอื่นเป็นพิเศษ ฉะนั้นการอบไอน้ำก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้ผมนุ่มมากขึ้น และการหมักผมอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็ช่วยให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเส้นผม แต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพื่อผมที่ทำสี ย้อม ดัด กัด โกรก โดยตรง

ผมตรงยาว กับการทำ "สปาผม"

เป็นผมที่ดูแลค่อนข้างง่าย แต่ก็ไม่สามารถจะละเลยในการดูแลได้เพราะว่าผมตรงที่ยาวมากๆ ปลายผมก็จะต้องได้รับการดูแลด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายผมแห้งแตกปลาย ดังนั้นเวลาสระผม จึงต้องล้างผมให้สะอาด และบำรุงด้วยครีมนวดผม เวลานวดควรนวดบริเวณปลายผมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะน้ำมันธรรมชาติไม่สามารถมาเลี้ยงถึงปลายผมได้ เพราะฉะนั้นอย่างขาดการดูไม่อย่างนั้นแล้วผมแห้งแตกปลายแน่

►►แนะนำสูตรครีมดีท็อกซ์ผม สำหรับการทำ "สปาผม" แบบง่าย ๆ แต่ได้ผลดีเกินคุ้ม
•สูตรครีมดท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 1
ใช้โยเกิร์ตผสมกับน้ำมันมะกอก หมักผมทิ้งไว้อย่างน้อยครึ่งชม. ก่อนสระผมหรือถ้ามีเวลาให้หมักไว้นานกว่านั้น ผมจะสวยปิ้งจริง ๆ
•สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 2
ใช้หัวกะทิคั้นสด ๆ ผสมกับน้ำมันมะกรูด หมักไว้ รับรองผมจะเงา ดำ มัน นุ่มแบบธรรมชาติ
•สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 3
ใช้มายองเนสหรือน้ำมันมะพร้าว จะทำให้เส้นผมนุ่มตามธรรมชาติ
•สูตรครีมดีท็อกซ์ "สปาผม" สูตรที่ 4
ใช้โยเกิร์ต ผสมน้ำมันมะกอก ผสมไข่แดง ผสมน้ำผึ้ง สรรพคุณเกินคำบรรยาย

ว่างๆๆก็ลองทำกันดูค่ะ
 
ที่มา:  หมอสะกีนะฮฺ แพทย์แผนตะวันออก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น