วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เบา(ปัสสาวะ) หวาน = ปัสสาวะหวาน

รส หวาน แผนไทยกล่าวว่า ซาบเนื้อ บำรุงเนื้อ ซึ่งไม่ได้หมายเพียงกายเนื้อ แต่ยังหมายรวมถึง พลังงานให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ หมอไทยกล่าวว่า เบาหวานเกิดแต่พัทธะปิตตะหย่อน ทำให้เสมหะโลหิตังกำเริบ คือระบบของตับบางส่วนทำหน้าที่ได้น้อยลง เกิดตะกันแทรกเข้าระบบโลหิต ทำให้เลือดข้นหนืดดั่งน้ำเชื่อม หัวใจจึงทำงานหนัก เหนื่อยเพลียง่าย ปัสสาวะบ่อยด้วยเหตุที่ไตจะขับน้ำตาลออก จึงหิวน้ำบ่อย เบาบ่อย และเบาหวาน ร่างกายผ่ายผอมลง เพราะเนื้อไม่บังเกิด จากเหตุที่ระบบตับหย่อนลง หมอไทยกล่าวอีกว่า น้ำตาลมา น้ำมันตาม ลมเกิด ไตพินาศ หมายว่าเมื่อระบบตับหย่อน น้ำตาลมากเมื่อใด ไขมันจะเกิดตาม ความดันโลหิตจะสูง ท้ายสุดไตวาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หมอไทยเรียก ชาติสัมพันธ์ตระกูล เดี๋ยวนี้เรียก กรรมพันธ์ คือการสืบสายโลหิต หากมี
เบาหวาน ที่ปู่ ย่า ตาหรือยาย จะเกิดที่พ่อ หรือแม่ และตกทอดต่อมาที่ลูก นั่นคือเหตุแรกของเบาหวาน กินรสผิดสำแดง หวาน,มัน,เค็ม มากๆ นั่นคือเหตุที่สอง ด้วยอายุที่มากขึ้น เกิดกระษัย ความเสื่อมไป นั่นคือเหตุที่สาม ใช้ชีวิตด้วยความกลัดกลุ้ม หิวไม่กิน กินไม่หิว กินไม่เลือก เหล้ายาปลาปิ้ง สูบยา เที่ยวเตร่ ทำงานมาก ทำงานหนัก นั่นคือเหตุที่สี่ และไม่ว่าเหตุเกิดแต่ที่ใดก็ตาม หมอไทยแก้ที่ตับเสมอ เพราะตับเป็นสมุหฐานเหตุต้นของเบาหวาน
เพราะเมื่อระบบตับเข้าสู่ภาวะปกติ ตับก็จะกลับมาทำหน้าที่ รุ,ล้าง,สร้าง,เสริม,เก็บ ได้ดั่งเดิม เมื่อน้ำตาลถอย น้ำมันก็จะลด ลมจะไม่เกิด ไตจึงสมบูรณ์ หากเป็นเบาหวานแล้วควรพบแพทย์
ซึ่งหมอไทยมีวิธีการรักษาเบาหวานดังนี้
รุ ตะกันน้ำตาลในโลหิต รุระบบทางเดินอาหาร รุตะกันในตับไต รุน้ำเหลืองเสีย
ล้อม บำรุงหัวใจ ล้อมเลือดให้ใส ล้อมกำเดาไม่ให้กำเริบ ล้อมลมสูงลงล่าง
รักษา ระบบตับให้ทำงาน ระบบไตให้สมบูรณ์
บำรุง เลือดเนื้อให้กลับมาบริบูรณ์ดังเดิม
วางอาหาร เพื่อไม่ให้เบาหวานเกิดอีกต่อไป

โบราณนอกจากจะมียารักษาแล้ว ยังมีน้ำกระสายยาเพื่อลดน้ำตาลในเลือดดังต่อไปนี้
อบเชยเทศ/กานพลู/หนวดข้าวโพด/เมล็ดทับทิม/กลีบดอกบัว/ทองพันชั่ง/พญายา
ทั้งหมดนำต้มห้ามเคี่ยว ใช้ดื่มต่างน้ำ ทำให้ระดับน้ำตาลลดลง

พืชผักผลไม้ลดน้ำตาลที่หมอไทยให้ผู้ป่วยเบาหวานทาน
หัวปลี/ดอกกระเจี๊ยบ/ผักกระชับ/ยอดข้าวโพด/ผักกาดน้ำ/ผักโขมหิน/ผักเป็ดแดง/มะระขี้นก/ผักเบี้ยใหญ่/
ผักเชียงดา/ลูกหว้า/กล้วยน้ำหว้า/ทับทิม/ฝรั่งขี้นกดิบ/มะละกอ เป็นต้น

ใบไม้ลดน้ำตาลได้
ใบกรดน้ำ/ใบกระเพรา/ใบขนุน/ใบชา/ใบชะพลู/ทองหลางใบมน/ใบน้ำเต้า/ใบประดู่/ใบปอ/ใบคะน้า/ใบฟักข้าว
นำต้มห้ามเคี่ยว ใช้ดื่มต่างน้ำ

ทั้งหมดลดแค่น้ำตาลไม่ใช่รักษาเบาหวานที่ต้นเหตุ และใช้ร่วมกับการรักษาทางยา หรือสำหรับผู้ไม่ป่วยใช้ดื่ม
กินเพื่อไม่ให้เกิดเป็นเบาหวาน แต่ก็ไม่ควรกินดื่มตลอด กินบ้างหยุดบ้าง ทางที่ดีที่สุดคือหยุดหวาน มัน เค็ม ตรง
จุดที่สุดแล้ว และหากสงสัยว่าจะเป็นไหม ง่ายที่สุดคือนำปัสสาวะใส่ภาชนะทิ้ง ไว้ แล้วรอดูว่ามีมดมาขึ้นไหม เพราะมดจมูกไว อย่างที่เรียกกันจมูกมด มดชอบน้ำตาลหวาน หากมีปัสสาวะหวานมดขึ้นแน่นอน แสดงว่ามีน้ำตาลแทรก
อยู่ในน้ำปัสสาวะนั้น หมอไทยว่า น้ำตาลกำเริบ แต่หากมีอ่อนเพลีย มือชาเท้าชา กินมากแต่ผอมลง เป็นฝีบ่อย
เป็นแผลหายยากร่วมด้วยหมอไทยว่า น้ำตาลพิการ



ที่มา:  Komson Dinnakorn Na Ayuddhaya

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น