วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เนื้องอกในมดลูก




 

ภัยเงียบสำหรับสตรี ระวัง! เธออาจจะมาโดยเราไม่รู้ตัว เนื้องอกในมดลูก ความเสี่ยงสำหรับผู้หญิง (Lisa)

50% ของผู้หญิงไม่รู้ว่าตัวเองมีเนื้องอกที่มดลูก ถ้าเนื้องอกโตขึ้นก็จะไปเบียดอวัยวะใกล้เคียง บางคนอาจปวดท้องขณะมีประจำเดือนหรืออาจไม่มีอาการก็ได้
ลักษณะของซีสต์ หรือเนื้องอกในมดลูกเป็นอย่างไร

ในมดลูกจะไม่ค่อยมีซีสต์ เพราะองค์ประกอบส่วนใหญ่ของมดลูกเป็นกล้ามเนื้อ ซีสต์มีองค์ประกอบเป็นของเหลว และมักเกิดในอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น รังไข่ ท่อรังไข่ หรือปากมดลูก ที่ผิดปกติในมดลูกมักเป็นเนื้องอกมากกว่า

ทั้งนี้ เนื้องอกของมดลูกมีชนิดธรรมดา และชนิดที่เป็นมะเร็ง โดยเนื้องอกส่นใหญ่เกิดจากชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก ที่นี้เรามักพบเจอเนื้องอกธรมดาทั่วไปมากกว่า ซึ่งก็มีเนื้องอก 2 แบบใหญ่ ๆ คือ เกิดจากกล้ามเนื้อโดยตรง หรือเกิดจากมีเนื้ออย่างอื่น (เช่น เนื้อเมนส์) แทรกเข้าไปในกล้ามเนื้อ แล้วทำให้มันโตขึ้นมา โดยอาจโตแบบกระจาย โตทั้งลูกเท่า ๆ กัน หรือแทรกแบบจุด ๆ แล้วจึงรวมกันเป็นก้อน อาจปูดด้านซ็าน ด้านขวา ด้านบน หรือด้านล่างของมดลูก เป็นต้น

หรืออีกชนิดหนึ่ง คือ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แทรกเข้ามาในมดลูก หรือมีหลายเม็ดเกาะกันเป็นกลุ่มจนใหญ่ขึ้น ชนิดนี้เป็นเนื้องอกชนิดเยื่อบุมดลูกแทรกเข้ามา คือ งอกผิดที่

อาการที่บ่งบอกว่ามีเนื้องอกในมดลูก

อาการของเนื้องอกในมดลูกก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอก คือ ถ้ามันโตขึ้นมา เช่น โตเหมือนคนท้องสามเดือนก็จะคลำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าใหญ่ไม่มากก็อาจคลำไม่พบและไม่มีอาการ แต่ถ้าเนื้องอกเข้าไปในโพรงมดลูกก็จะมีปัญหา คือ ประจำเดือนมามากผิดปกติ อาจปวดท้องหรือไม่ปวดก็ได้ การปวดของเนื้องอกส่วนใหญ่ชนิดที่ไมโอมา (Myoma) จะปวดก็ต่อเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงในเนื้องอกซึ่งพบบ่อยคือ

1.เริ่มมีการย่อยสลายตัว เพราะมีขนาดใหญ่มาก เลือดไปเลี้ยงไม่พอจึงทำให้เนื้องอกขาดเลือด ก็จะเริ่มปวด

2.เนื้องอกกดเบียดอวัยวะอื่น เช่น กดกระเพาะปัสสาวะ กดลำไส้ใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็จะทำให้เกิดการปวดแบบหน่วง ๆ เหมือนมีก้อนหนัก ๆ ในท้อง และทำให้ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก หรือประจำเดือนมามาก บางคนไม่รู้สาเหตุก็ไปรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะเนื้องอกไปกดทับท่อปัสสาวะ จึงทำให้จุได้น้อยลง แล้วก็เกิดการอักเสบได้ง่าน เนื่องจากมีเชื้อโรคคั่งอยู่ เป็น ๆ หาย ๆ เพราะไม่ได้รับการรักษาที่ต้นคอ คือ 50% ของผู้ที่มีเนื้องอกในมดลูกไม่มีอาการ มักตรวจพบเวลาตรวจภายใน หรืออัลตราซาวนด์

ถ้าไม่ได้อัลตราซาวนด์ แต่ตรวจภายในจะเจอไหม

ขึ้นอยู่กับขนาดและขึ้นอยู่กับสุภาพสตรีเท่านั้น คือ คนโสดจะไม่ค่อยไปตรวจภายใน จึงทำให้ได้ข้อมูลน้อย ดังนั้น ควรทำประกอบกันสองอย่าง หรือหากจำเป็นก็ทำอัลตราซาวนด์อย่างเดียว

แพทย์วินิจฉัยคนไข้อย่างไร ว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก

ถ้าเป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา ประมาณ 50% ของผู้มีเนื้องอกในมดลูกจะไม่มีอาการ หรือบางคนมีประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือเนื้องอกไปกดอวัยวะอื่น ๆ ซึ่งแต่ละคนอาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แพทย์จะวินิจฉัยโดยการตรวจภายในและอัลตราซาวนด์

วิธีรักษาเนื้องอก ต้องมีการพิจารณาอย่างไร

พิจารณาจากอายุ ความต้องการมีบุตร และความต้องการของผู้ป่วยเป็นหลัก แล้วก็พิจารณาจากตัวโรค ที่สำคัญคือ ต้องดูอาการ ขนาด และอัตราการโตของเนื้องอก หรือพิจารณาจากอายุ เช่น วัย 45 ปีขึ้นไป ตรวจพบเนื้องอกโดยดูจากตัวโรค แล้วจำเป็นต้องผ่าตัด แพทย์มักแนะนำให้ตัดมดลูก เพราะการรักษาแบบไม่ตัดมดลูกทิ้ง ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะมีเนื้องอกหลงเหลืออยู่

นอกจากนี้ แพทย์บางคนจะแนะนำให้ตัดรังไข่ด้วย เพื่อป้องกันมะเร็งรังไข่ เนื่องจากการเป็นมะเร็งรังไข่อันตรายมากถึงขั้นเสียชีวิต แต่ข้อเสียก็คือ ทำให้เข้าสู่วัยทองเร็ว หงุดหงิด ไม่สบาย กระดูกพรุนเร็วขึ้น และอาจต้องใช้ฮอร์โมนทดแทน ฉะนั้นการตัดรังไข่ออก ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด ในกรณีที่ปกติ แต่ถ้าผ่ามดลูกแล้ว เจอรังไข่เป็นซีสต์ หรืออื่น ๆ ก็ควรเอาออกไปด้วย

แล้วถ้าหากผู้หญิงต้องการมีบุตร

กรณีที่ต้องการมีบุตรก็ตัดเฉพาะเนื้องอกออกได้ คือ ในคนอายุ 35 ปี ก็ต้องดูขนาดของเนื้องอกในการปล่อยให้ตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงขณะที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะเมื่อเนื้องอกมีขนาด 5-6 ซม. เพราะอาจแท้งง่าย หรือคลอดยาก เนื่องจากมดลูกไปขวาง ซึ่งอาจต้องผ่าตัดคลอด หรืออาจคลอดก่อนกำหนด เพราะเนื้องอกอาจไปกระตุ้น เบียดพื้นที่มดลูกจากทารกอยู่ไม่ได้ คือ ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างในการมีลูก โดยเฉพาะตำแหน่งและขนาดของเนื้องอก ถ้าเนื้องอกมีขนาด 1 ซม.มีประจำเดือนมาก ปวดท้องมากเวลามีประจำเดือนก็อาจกินยา

แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยารักษาเนื้องงอกช่วยได้แค่ชะลอ เป็นยาที่ประกอบด้วยโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีในรูปยาฉีดหรือกิน หรืออีกแบบหนึ่งคือ จำลองวัยทอง แต่ถ้าหยุดยาก้อนเนื้องอกก็จะโตได้อีก ถ้าเนื้องอกมีขนาดเล็กประมาณ 2-3 ซม. ก็ต้องตรวจทุก 6 เดือน หรือปีละครั้ง ถ้ามีขนาดเล็ก และไม่มีอาการก็ไม่ต้องทำอะไรกับมัน

อะไรเป็นสาเหตุให้เนื้องอกในมดลูกโตขึ้น

องค์ประกอบที่ทำให้เนื้องอกโต ส่วนใหญ่เกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ บางคนอาจมีฮอร์โมนปกติ แต่เนื้อมดลูกมีความไวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน หรืออาจเกิดจากฮอร์โมน หรืออาหารที่มีองค์ประกอบเปลี่ยนแปลงให้เกิดเอสโตรเจนมากขึ้น เช่น อาหารแคลอรีสูง (ฟาสต์ฟู้ด) น้ำอัดลมที่มีน้ำตาลสูง

เนื้องอกทำให้เป็นมะเร็งรังไข่ได้ไหม

ส่วนใหญ่ตัวมดลูกเองจะไม่กระตุ้นที่รังไข่ แต่ถ้าเป็นมะเร็งที่มดลูก ก็อาจลามไปที่รังไข่ได้ เนื่องจากฮอร์โมนจากรังไข่ส่งมาถึงตัวมดลูก ทำให้มันทำงานผิดปกติ แต่ถ้าปราศจากรังไข่ มดลูกก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คือ มดลูกจะเหี่ยว ฉะนั้นการตัดมดลูกออก เก็บรังไข่ไว้ ก็ยังมีการสร้างฮอร์โมนต่อไป ผิวหนังของคนเราก็จะไม่เหี่ยว

  


เนื้องอกในมดลูกอันตรายแค่ไหน

อัตราการโตขึ้นของเนื้องอกก็สำคัญ เพราะเป็นตัวบ่งชี้มะเร็ง โดยทั่วไปเ


นื้องอกจะมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งน้อย คือ ประมาณ 1% แต่ถ้าโตเร็วและมีเลือดออกมาผิดปกติก็อย่านิ่งนอนใจ ดังนั้น ถ้ารู้ตัวว่ามีเนื้องอกก็อย่ารอให้มีอาการ ควรไปพบแพทย์ตรวจเป็นระยะ เพื่อดูว่าโตขึ้นหรือไม่ เพราะเนื้องอกก็อาจกลายได้ อาจการที่กลายเป็นมะเร็งคือ ก้อนเนื้อโตเร็วผิดปกติ

ที่มา: หมอสะกีนะฮฺ แพทย์แผนตะวันออก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น