วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กินอยู่แบบไทยใช้ภูมิปัญญาไทยในบ้านสมัยใหม่ ตอนที่ ๑

ตึกสูงเป็นบ้าน,บ้านเดี่ยว,บ้านทาว์นเฮ้าส์ ชีวิตในสังคมเมือง บ้านพักอาศัยของครอบครัว เราลองมา แยกสองคำนี้ดู ครอบ-ครัว ครอบ=เอาของที่มีลักษณะคล้ายขันเป็นต้น ปิดงำไว้ ครัว=เรียกผู้ที่อยู่กินร่วม ครัวกัน ครอบครัว=สถาบันพื้นฐานของสังคม อันประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ราชบัณฑิตยสภา บอกคำแปล ไว้เช่นนี้ ครอบครัวจึงเหมือนคนที่อยู่ร่วมกัน มีของกินมาจากครัวเดียวกัน คนสมัยก่อนอยู่แบบครอบครัวใหญ่
มีบ้านพ่อแม่ และบ้านลูกๆอยู่ใกล้ชิดกัน แลอบอุ่นด้วยสายเลือดเดียวกัน ช่างอุ่นกายและอุ่นใจ แบ่งปัน เอื้อเฟือ
ต่อกัน เป็นห่วงใยดูแลกัน ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย จะเรียกได้ว่าครอบครัวร่วมก็ได้ แต่มาสมัยนี้ครอบครัวร่วม
เลือนหายไป กลายมาเป็นครอบครัวเดี่ยว ต่างคนต่างอยู่ต่างหาต่างกินต่างใช้ ย่อมเป็นไปตามวิวัฒน์แต่ละยุค
แต่ละสมัย แล้วเราจะกินอยู่กันอย่างไรให้เหมือนบรรพชน เพื่อไม่ป่วยไม่เจ็บไม่ไข้ อุ่นกายอุ่นใจเหมือนอยู่ใน
ครอบครัวใหญ่ดังแต่ก่อน
ถ้าครัวเล็ก ครัวแคบ ไม่มีครัว ที่ไม่พอ ทำครัวง่ายๆได้ ใช้เตาไฟฟ้า/หม้อหุงข้าวไฟฟ้า/กะทะไฟฟ้า/เตา
แม่เหล็ก ฯลฯ ปรุงอาหารด้วยวิธีไทยแท้แต่นานมา ต้ม,ยำ,ตำ,แกง ไม่ผัดไม่ทอด ไม่มีกลิ่นไปรบกวนเพื่อน
บ้านข้างเคียง ข้ออ้างเรื่องที่หมดไป ส่วนข้ออ้างเรื่องเวลา ให้ท่องคำนี้ไว้ ซื้อมาเจ็บ ซื้อมาป่วย ซื้อมาไม่สบาย
กินแล้วไปนอนโรงพยาลวันหน้า ทำเองดีที่สุด บริหารเวลาเอามาบริหารสุขภาพเราและครอบครัวดีที่สุด รักวัว
ให้ผูก รักลูกให้ทำกินเอง
กิน มีสองกิน กินอาหารและกินยา เมื่อก่อนทั้งยาและอาหารอยู่ในที่เดียวกันคือในครัว ครัวเป็นหัวใจของ
บ้าน เป็นที่มาของคำว่า "ครอบครัว" สิ่งที่อยู่ในครัวเป็นทั้งอาหารและยา สองในสี่ปัจจัยหลักอยู่ในครัว เราเอง
ก็สามารถทำครัวแบบบรรพชนนี้ได้ดังนี้
1. เราต้องมาทำความเข้าใจเรื่องพืชผักผลไม้เป็นอาหารและยาได้ ซึ่งต้องมีติดครัวไว้เสมอ ในแพทย์แผน
ไทยคือความเข้าใจในเรื่องของสรรพคุณพืชวัตถุ คือสิ่งที่มาจากพืช แพทย์ไทยบอกไว้ว่าถ้าจะเข้าใจสรรพคุณ
ก็ต้องเข้าใจเรื่องรสเสียก่อน ภูมิปัญญาเหล่านี้รู้กันมาเป็นพื้นสามัญจากพ่อจากแม่ สู่ลูกหลานเหลนโหลน เพื่อ
กินแล้วไม่ป่วย เมื่อป่วยแล้วใช้เป็นยา ในที่นี้จะแนะนำเพียงของติดครัวแบ่งไปตามรสของพืชผักผลไม้นั้นๆดังนี้

พืชผักผลไม้แบ่งเป็น 9 รส 9 สรรพคุณ ที่โบราณมีติดครัวไว้เสมอ

รสฝาด มีสรรพคุณสมานภายในกายและภายนอกกาย
ฝาดเป็นยา
- กล้วยน้ำหว้าดิบหั่นเป็นแว่น,เปลือกมังคุด อบหรือตากให้แห้งใช้ต้มน้ำดื่มผสมใบชาแก่ๆ แก้อาการท้องเสีย
ช่วยลดอาการ โรคกระเพาะหรือลำไส้อักเสบเป็นแผล
- เปลือกแค ใช้ต้มน้ำแทรกเกลือ ใช้อมเมื่อเหงือกบวม หรือเป็นแผลร้อนในปาก
- ผลแห้งมะตูม ต้มน้ำดื่มบ่อยๆแก้ร้อนในกระหายน้ำ
ตัวอย่างทำง่ายๆ หากล้วยน้ำหว้าดิบมาหั่นตากแห้งแล้วเก็บในขวดโหล หรือชาจีนไว้ชงแก่ๆกินยามท้องเสีย
ฝาดเป็นอาหาร
- ยอดฝรั่ง/ยอดมะม่วง/ยอดมะละกอ/ยอดจิก/ยอดผักกระโดน นำมาต้มจืดก็ได้ ต้มจิ้มน้ำพริกก็ดี
มะเขือเปราะ/มะเขือพวง/มะเขือ
ตัวอย่างทำง่ายๆ หากท้องเสียบ่อยๆควรเอาผักรสฝาดมาปรุงเป็นอาหาร ผัดมะเขือยาว แกงเขียวหวาน
มะเขือเปราะ เป็นต้น ให้ทานสัปดาห์ละ 3-4 มื้อ

รสหวาน มีสรรพคุณบำรุงเนื้อ ให้กำลัง
หวานเป็นยา
- น้ำผึ้ง และหญ้าหวาน ใช้รักษาแผลภายนอก,ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
ตัวอย่างทำง่ายๆ หากต่อมลูกหมากโต ใช้ผักบุ้งจีนลวกราดน้ำผึ้ง หรือใช้หญ้าหวานชงชาดื่มแทนน้ำตาล
ช่วยลดน้ำตาลในโลหิต
หวานเป็นอาหาร
- น้ำตาลอ้อย/ฟักทอง/ฟักเขียว/บวบ/แตงกวา
ตัวอย่างทำง่ายๆ ยามอ่อนเพลีย น้ำอ้อยสด+น้ำตาลกรวด+ฟักทองนึ่ง+เกลือนิด นำลงปั้นดื่มแล้วมีแรง

รสมัน มีสรรพคุณบำรุงกล้ามเนื้อ,เส้นเอ็น,กระดูก และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
มันเป็นยา
- น้ำมันมะพร้าว,แป้งท้าวยายม่อม(ใช้ผสมน้ำตาลกรวด บำรุงกำลังแก้อ่อนเพลีย)
ตัวอย่างทำง่ายๆ แป้งท้าวยายม่อมผสมกับน้ำอ้อยสด นำมาปั้นเหมือนบัวลอยทำเก็บไว้ให้มิดชิดแช่ตู้เย็น
เมื่อปวดเมื่อย นำมาทำบัวลอยในน้ำอ้อยสดผสมน้ำตาลกรวด แล้วใช้น้ำมันมะพร้าวทาถูนวดบริเวณที่มีอาการ
มันเป็นอาหาร
- ถั่วทุกชนิด/ฟักทอง/ขนุนอ่อน
ตัวอย่างทำง่ายๆ ฟักทองต้ม ถั่วสามสีต้ม โรยหน้าด้วยงาดำ งาขาว มะพร้าวขูด น้ำตาลกับเกลือปรุงรส
บำรุงร่างกาย เส้นเอ็น กล้ามเนื้อและกระดูก

รสเค็ม มีสรรพคุณซึมซาบเข้าผิวหนัง กำจัดเมือกมันในลำไส้ ฟอกโลหิต
เค็มเป็นยา
- เกลือแกง/เกลือสินเธาว์
ตัวอย่างทำง่ายๆ สองเกลือรวมกันเจือน้ำตาลกรวด ชงละลายในน้ำอุ่น แก้อ่อนเพลียจากอาการท้องเสีย
แก้อาการขาดน้ำจากเหงื่อออกมาก
เค็มเป็นอาหาร
- ปลาแห้ง/ปลากรอบ/สาหร่ายทะเล/เนื้อเค็ม
ตัวอย่างทำง่ายๆ ต้มจืดเต้าหู้ไข่กับสาหร่าย/ต้มยำปลากรอบ/ยำปลาเล็กปลาน้อยทอด/ ยำเนื้อปิ้ง หญิง
หลังหมดประจำเดือนแล้วทานดี เพื่อฟอกโลหิตและให้โลหิตกลับมาบริบูรณ์ จากเลือดที่เสียไป

รสเปรี้ยว มีสรรพคุณแก้อาการทางเสมหะ,ช่วยฟอกโลหิต,ช่วยระบายท้อง
เปรี้ยวเป็นยา
- มะทุกชนิดเท่าที่หาได้ เช่น มะดัน/มะขาม/มะม่วงดิบ/มะนาว/มะเฟือง/มะไฟ/กระเจี๊ยบ
ตัวอย่างทำง่ายๆ หากท้องผูก น้ำมะนาว,น้ำส้มมะขาม,น้ำต้มส้มแขก,น้ำส้มสด,หรือน้ำรสเปรี้ยวทุกชนิด
นำมารวมผสมกัน ตัดรสด้วยเกลือ ทานก่อนนอน
เปรี้ยวเป็นอาหาร
- มะขามเปียก/มะนาว/
ตัวอย่างทำง่ายๆ ถ้าเป็นภูมิแพ้ ทำต้มยำ/ยำเปรี้ยวๆ/ตำน้ำพริกกะปิมะดันหรือมะม่วงซอย/แกงส้ม ส้มๆ
กินแล้วไม่เจ็บป่วยง่าย ไม่ติดหวัดง่าย ประจำเดือนมาดี

จบตอนที่๑ เพียงเท่านี้ เพราะบทความนี้ยาวมาก อาจแบ่งเป็นสามตอนจบ


ที่มา: คมสัน ทินกร ณ อยุธยา (แพทย์ประจำคลินิกการแพทย์แผนไทย หม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น