วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ลดน้ำหนักแบบคนไทยโบราณ

ใครที่เคยเห็นภาพถ่ายบุคคลสมัยก่อนจะพบว่าคนไทยโบราณไม่อ้วนเหมือนคนไทยสมัยนี้ ส่วนผู้มีอันจะกิน
อ้วนท้วนสมบูรณ์ตามค่านิยมในสมัยนั้น ซึ่งไม่ใช่ไม่มีจะกิน อาหารการกินนั้นสมบูรณ์ปลอดภัยกว่าคนสมัยนี้เยอะ
มาก แต่ที่ไม่อ้วนเพราะเขารู้จักกิน เขารู้ว่าถ้าอ้วนจะเจ็บป่วยหมอสมัยก่อนมีน้อยหายากไม่อ้วนไม่ป่วยดีที่สุด
หมอไทยกล่าวว่า คนปฎิสนธิเป็นธาตุน้ำ คือผู้ปฎิสนธิในเดือน สิงหา,กันยา และตุลา จะอวบอ้วนเจ้าเนื้อเป็น พื้นปกติ หรือผู้เมื่อกำเนิดเจ้าเนื้อแต่ออกท้องแม่ มักเจ้าเนื้อเมื่อโตใหญ่ อันนี้เป็นธรรมดาของเขา ถ้าผอมไปจะผิด
จากธาตุปกติของเขา จะเจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนคนปฏิสนธิเป็นธาตุไฟคือผู้ปฎิสนธิในเดือน กุมภา,มีนา และเมษา จะ
ไม่อ้วนจะผอม ถ้าอ้วนจะเจ็บป่วยได้ง่าย
ถ้าคิดจะลดน้ำหนักควรพึงดูธาตุปกติปฎิสนธิของตนด้วย อย่าให้ผิดจากกายลักษณะปกติของเรานัก ที่สำคัญ
คือเรื่องกิน ด้วยเป็นต้นกำเนิดของความอ้วน ต้องกินให้เป็นไม่ใช่พึ่งกันแต่ยาลดน้ำหนัก กินอยู่แบบคนไทยสมัยก่อนกินอยู่ดังนี้ กินอาหารที่ปรุงด้วยวิธี ต้ม/ยำ/ตำ/แกง เท่านั้น ผัด ทอดไม่เอาไม่กิน เช้ามากินอาหารรสเปรี้ยวออกร้อนด้วยเครื่องเทศ กลางวันกินอาหารกลมกล่อมรสไม่จัด เย็นค่ำกินอาหารสเผ็ดร้อนดี และกินเมื่อหิวเท่านั้นไม่มีมื้ออาหาร เมื่อหิวดูเวลาและกินอาหารให้ถูกรสถูกกับเวลาดังกล่าวข้างต้น นั่นคือเรื่องกิน
ส่วนเรื่องอยู่ เราอยู่เมืองร้อน เมืองฝนไม่ใช่เมืิองหนาวเย็น ต้องเคลื่อนที่อย่างฉับไว ไม่ใช่นั่งกันแต่ในห้องแอร์
ซึ่งให้ความรู้สึกสบายไม่อยากเคลื่อนกายไปไหน การเคลื่อนที่ของคนอยู่เมืองร้อนให้ประโยชน์อย่างมาก อันแรกคือ
เมื่อกายเคลื่อน ลมภายในร่างกายก็เคลื่อน ทำให้เราไม่อึดอัดจากลมในร่างกายที่มีต้นทางจากความร้อนภายนอก
สอง การเคลื่ิอนที่ทำให้ลมเคลื่อนไปดันเลือดให้หมุนเวียนดีทั้งระบบ ไม่ชามือชาเท้าเหมือนคนเคลื่อนไหวน้อย
สาม การเคลื่อนไหวเหงื่อจะออก และเกิดการหมุนเวียนของอากาศรอบตัว ทำให้กายเย็นลง สี่ การเคลื่อนไหว
ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อได้ทำงาน ร่างกายแข็งแรง ไม่สมบูรณ์จากความอ้วน
ถ้ากินอยู่ได้ดังนี้ไม่อ้วน แต่จะแข็งแรงอายุยืนนาน หลายคนบอกว่าทำไม่ได้ด้วยเหตุผลอันหลากหลาย ก็ต้อง
บอกกันอย่างตรงไปตรงมาว่า แสดงว่าเรามีเวลาและเงินพร้อมสำหรับไปนอนที่โรงพยาบาลในวันหน้า ด้วย
โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคอื่นๆอีกมากมายเหลือคณานับ แถมยัง
มีโรคเพิ่มจากยาลดน้ำหนักอีกเพราะหาซื้อง่าย เร็วดี ไวดี โดยไม่ต้องไปเสียเวลากับการเปลี่ยนแปลงเรื่องอยู่เรื่องกิน อยากลดแต่ทำอะไรๆเดิมๆได้ปกติ
เคยสังเกตุไหมว่าเมื่อเราอายุน้อยหุ่นดี กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่พออายุมากขึ้นกินน้อยกว่าเดิม แต่ทำไมเจ้าเนื้อขึ้นเรื่อยๆ หมอไทยตอบว่า ก็เพราะตอนวัยรุ่นร่างกายมีความร้อนมากเรียก ปิตตะกำเริบ (น้ำย่อยหลั่งดี)มีการเผาผลาญดี ต่อเมื่ออายุมากขึ้น การเผาผลาญลดลง กลายเป็นมันเหลวพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ เรียก ปิตตะหย่อน (การหลั่งน้ำย่อยลดลง) ถ้าจะไม่อ้วนให้ทานน้ำกระสายยาช่วยย่อยหลังมื้ออาหารแบบคนสมัยก่อนเขาทำกัน ช่วยย่อยและ
ขับลม ด้วยเป็นวัยที่ลมกำเริบได้ง่าย แต่คนสมัยนี้ไม่ทำอาหารเองหาซื้อเอาข้างหน้า อาหารจานด่วน อาหารอุ่นไมโครเวฟ ขนมถุงขบเคี้ยว น้ำอัดลม น้ำสารพัดสี น้ำชานานาชนิด ล้วนมีสารให้ความหวานทางอุตสาหกรรม พอหวานก็ขายได้ เพราะหวานอร่อยลิ้น คนติดหวาน แต่หวานแล้วค่อยๆอ้วนบวม แถมด้วยเบาหวานอีก คนก็กินกัน
พออ้วนก็ไปหายาลดอ้วนมากิน ช่างแปลกดีแท้เทียว
กินอาหารไทย ต้ม ยำ ตำ แกง ไม่กินผัด ทอด เคลื่อนไหวบ่อยๆ ไม่หวาน มัน เค็ม กินเมื่อหิว ไม่หิวอย่ากินเลิกซื้อเขาเราทำเอง น้ำมีสี น้ำยอดฮิตทุกชนิด ขนมถุง อาหารซอง ของกินนอกบ้าน เลิกหมด ถ้าไม่ผอมลงอย่างมีสุขภาพดีจริง ก็ไม่รู้จะเป็นเช่นใดแล้ว หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้คงรอว่าจะมีอะไรแนะนำทำได้แบบเร็วๆไหมขอตอบว่าไม่มี เวลาอ้วนๆได้เร็ว แต่เวลาลงค่อยๆลง คงหลายเดือน แต่ไม่ต้องเสียงาน เสียเงิน และเสียชีวิตในวันหน้า คุ้มค่าไหม?
พอถามตัวเองและตกลงว่าจะทำ ต้องทำทันทีอย่าช้าทำให้เหมือนคนสมัยก่อนที่ไม่มีสิ่งเหล่านี้มาปรนเปรอ
ร่างกาย แต่อยู่ต่อเนื่องกันมาได้จนมีเราทุกคนในวันนี้ ท่านทำได้ เราก็ทำอย่างท่านได้ เมื่อเริ่มทำให้ถ่ายท้อง
เอาของสกปรกในช่องท้องออกเสียก่อน ยาถ่ายมีขายทั่วไป ถ่ายอาทิตย์ละครั้ง สักสี่ห้าครั้ง ให้ท้องไส้สะอาด
หรือทำน้ำกระสายยาถ่ายท้องกินเองก็ได้ไม่ต้องซื้อดังนี้
ส่วนประกอบ เม็ดแมงลักแช่น้ำ ผสมด้วยน้ำส้มมะขามเปียก น้ำมะนาว น้ำส้มแขกต้ม ดื่มก่อนนอน ตอน
เช้าถ่ายสบาย ดื่มอาทิตย์ละครั้งก็พอ
หลังจากนั้นให้ต้มน้ำตรีผลา สมอไทย สมอพิเภก ลูกมะขามป้อม ผสมกับน้ำเตยหอม และน้ำผึ้งนิด ให้กิน ตอนเช้าแก้ว เย็นแก้ว กินทุกวันสักหนึ่งเดือน ช่วยให้แข็งแรงและน้ำหนักจะค่อยๆลง
เข้าเดือนสอง ต้มน้ำเบญจกูล ( ดีปลี เถาสะค้าน รากช้าพลู รากเจตมูลเพลิง เหง้าขิงแห้ง) มีขายตามร้านยาไทย ให้ดื่มครั้งละแก้วยามเช้า-เย็นช่วยขับมันเหลว แต่ยานี้มีรสร้อนมากควรระวัง หากภายในร้อนหรือมีไข้ให้หยุดยาทันที เมื่อเย็นลงหรือหายไข้ค่อยดื่มใหม่
กระทำแบบนี้สลับกันสักสองครั้งหรือสี่เดือน พร้อมกระทำตนตามที่บรรยายไว้ด้านบน น้ำหนักจะลดลง แต่ควรลดลงให้ถูกกับธาตุปฎิสนธิของตนด้วย อันนี้สำคัญยิ่ง พอลงแล้วให้หยุดน้ำกระสายต้มทั้งหมด ไม่มีสิ่งใดดีต่อ
ร่างกายถ้ากินมากไป กินต่อเนื่องกันไป ป่วยไข้ได้เป็นเที่ยงแท้ น้ำกระสายยาทั้งสามขนานมีคุณยิ่ง แต่ก็มีโทษด้วย
ตื่นเช้ามาต้องถ่าย กินข้าวเมื่อหิว ถ้ากินเช้าได้ เวลาอาหารจะลงมื้อครบสามพอดี แต่ถ้าไม่กินเช้าเวลาอาหาร
จะเคลื่อนทั้งหมด ให้กินเมื่อหิวแทน และกินให้ถูกรสตามเวลาที่หิวนั้น ทำงานไม่นั่งมากยืนมากและไม่นอนมาก ออกกำลังกายแต่พอดีตน เข้าค่ำไม่กิน คนไทยไม่มีภูมิปัญญาเรื่องมื้อดึก ของนอกบ้านไม่กิน กินสิ่งที่ทำเอง ก่อนสี่ทุ่มนอน ตื่นตีห้าเข้าห้องน้ำ ทำแบบนี้เป็นวัฎฎะชีวิต ร่างกายแข็งแรง ไม่อ้วน ไม่ป่วยไข้ อยู่สุขสบายดีเชียว
สัญญากับตัวเองว่า เราจะไม่อ้วนๆๆๆ เราต้องทำ และทำให้ได้

ที่มา: คมสัน ทินกร ณ อยุธยา (แพทย์แผนไทย) สิงหาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น