วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หวานเป็นลม ขมเป็นยา

       โบราณว่าไว้ "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" เหตุเพราะรสหวานมักเย็น แต่รสเย็นนั้นขัดกับลม จึงทำให้เกิดลมท้องอืด ลมปวดเมื่อย ชามือชาเท้า ลมปวดหัว ลมแน่นอก และอีกหลากหลายลม 
       ส่วนขม ช่วยขับความร้อน ลดไข้ได้ขมจึงเป็นยา แต่ในทางแพทย์แผนไทยหวานนั้นเป็นยาได้เช่นเดียวกับขม รสหวานมีสรรพคุณซาบตามเนื้อ บำรุงเนื้อ เนื้อในที่นั้ไม่ใช่เพียงเนื้อหนังมังสาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงกำลัง พลังงานให้ชีิวิตด้วย 
       น้ำตาลจึงจำเป็นต่อชีวิต คือ เป็นพลังงานที่ทำให้เรามี่เรี่ยวมีแรงขับเคลื่อนกายได้ หากขาดน้ำตาล เราจะเป็นลมหน้ามืดหมดสติ สมคำโบราณว่าไว้ "หวานเป็นลม"
 
       ข้าว รสมันหอมหวาน ให้พลังงานดำรงชีวิต 
       ขนม ต้องหวานให้ความสดชื่นหายอ่อนเพลีย 
       น้ำอ้อย น้ำมะพร้าว น้ำมะม่วงสุก น้ำตาลทราย น้ำตาลหม้อ น้ำตาลโตนด น้ำตาลจาก แม้แต่หญ้าหวาน หรือน้ำผึ้งก็หอมหวาน ใช้กิน ใช้ปรุงรส ใช้ทำยา สรรพประโยชน์มากมายยิ่ง แต่ความหวานต่างที่มากัน ให้สรรพคุณแตกต่างกัน ดังจะกล่าว
 
     
             
           หวานจาก ข้าวใหม่ ข้าวเขียว จมูกข้าว หรือแม้แต่หวานจากข้าวงอก กระทั่งหวานมันจากน้ำข้าว เต็มไปด้วยสารอาหาร เหมาะกับผู้ฟื้นไข้ หรืออยู่ในช่วงลมปลายไข้ คนที่มีอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง จนอ่อนระโหยโรยแรง
     
  •        หวานจาก น้ำมะพร้าว ช่วยบำรุงครรภ์ ช่วยระบบความจำ ชำระกายให้บริสุทธิ์ ทำให้ผิวพรรณผ่องใสถ้านำเตยหอมมาคั้นน้ำ แล้วผสมกับน้ำมะพร้าวเจือด้วยน้ำตาลกรวด ท่านว่าดีนักเรื่องอ่อนแรง
     
  •        หวานจากอ้อยแดง บำรุงเลือด ช่วยขับปัสสาวะ ขับน้ำเหลือง แก้ช้ำใน บำรุงร่างกาย ให้นำลำต้นของอ้อยแดงมาหั่นเป็นชิ้นๆต้มในน้ำเดือดแทรกน้ำตาลกรวดหยอดน้ำผึ้ง เจือมะนาว
     
  •       หวานจากหญ้าหวาน เป็นหวานที่ไม่ให้พลังงาน เป็นหวานที่รักษาเบาหวาน ลดความดันโลหิต ใช้ใบ หญ้าหวานชงน้ำร้อนดื่มเป็นชา หามาปลูกเลี้ยงง่ายโตเร็ว ใช้ใบสดดีที่สุด
     
  •        หวานจาก น้ำตาลกรวด จือในน้ำต้มฝางเสน บีบมะนาวเพิ่ม กลายเป็นเครื่องดื่มสีบุษราคัม มีสรรพคุณบำรุงโลหิต แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงปอด เหมาะกับผู้ป่วยริดสีดวงทวาร มีเลือดออกเวลาถ่ายหนัก
     
  •        หวานจาก น้ำตาลโตนด นำลูกตาลมาต้มน้ำใส่หวานด้วยน้ำตาลโตนด ปรุงรสเปรี้ยวมะนาว ให้ได้รสเปรี้ยวหวาน นำกรองได้น้ำตาลโตนด สรรพคุณ แก้ไข้ตัวร้อน แก้ไอเรื้อรัง 
    หวานจาก พริกหวานเหลือง ไม่เอาเขียว,แดง ช่วยทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว การไหลเวียนของโลหิตเป็นไปได้ดี ช่วยระบบการย่อยอาหาร ขับลมขับเสมหะ เจริญธาตุ
     

  •        หวานจาก เมล็ดข้าวโพด นำลงต้มน้ำทั้งฝักทั้งหนวดข้าวโพด สุกยกลงกินเมล็ดข้าวโพด น้ำต้มที่ได้นำลงกรองสะอาดขึ้นไฟเติมน้ำตาลทรายแดง เกลือตัดรสนิด ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงไต
     
  •       หวานจาก ถั่วหวานและถั่วลันเตา หากมีอาการทางตับ ค่าตับสูง แนะนำให้เอาถั่วหวาน,ถั่วลันเตา มาคั้นน้ำให้ได้ครึ่งแก้ว ดื่มเช้า เย็นช่วยบำรุงตับได้ดี
     
  •        หวานจาก ะเอม รากชะเอมมีรสหวานชุ่ม รักษาพิษจากยา หรือพืชพิษต่างๆ นำลงคั่วด้วยไฟอ่อนๆชงน้ำร้อน จิบเป็นชา ลดอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ช่วยบำรุงปอด
     
  •        หวานจาก น้ำผึ้ง ชงชาผสมน้ำผึ้งบีบมะนาว ทำให้หลับสบาย ทานบ่อยๆช่วยลดความดันโลหิต ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ กล้วยน้ำหว้าราดน้ำผึ้ง ช่วยลดอาการท้องผูก
     
  •        หวานจาก มันเทศ ทั้งหวานทั้งมัน สรรพคุณป้องกันอาหารหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดความดันโลหิต มันเทศต้มน้ำขิง ช่วยขับลมในเส้น บำรุงม้าม บำรุงกระเพาะ
     
  •        หวานจาก ตาลหม่อน รสหวานเย็นชุ่ม ช่วยคุมธาตุ บำรุงเนื้อหนังให้สมบูรณ์
     
  •       หวานจาก ดอกคำฝอย,ดอกคำไทย มีรสหวาน สรรพคุณ บำรุงโลหิตและน้ำเหลืองให้ปกติ
     
  •       หวานจาก ข้าวหมาก รสหวานเย็นชุ่ม สรรพคุณ รักษาอาการลำไส้อักเสบ,ช่วยให้ความอบอุ่นต่อร่างกายสำหรับคนขี้เย็นขี้หนาว,บำรุงเลือดลม,ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย

หลากหลายคุณค่าความหวานจากน้ำตาล

น้ำตาลโตนด
น้ำตาลมะพร้าว
น้ำตาลอ้อย รสหวานเย็น ให้พลังงานชีวิตดำเนินได้ ถ้ามากไปทำให้ระบบเสมหะกำเริบ
น้ำตาลทรายแดง
น้ำตาลทรายสีรำ
 
ที่มา: คมสัน ทินกร ณ อยุธยา (แพทย์แผนไทย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น