ภัยเงียบในห้องนอน
โรคแพ้อากาศ หรือโรคโพรงจมูกอักเสบ เป็นโรคฮิตของคนเมืองที่มีปริมาณผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุที่พบบ่อยในผู้ป่วยส่วนใหญ่คือ ไรฝุ่น ที่มักจะซุกซ่อนและขยายพันธุ์อยู่ตามที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม และตุ๊กตา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ ตัวไรฝุ่นจะเจริญเติบโตและขยายพันธุ์
ได้ดีในที่อับชื้น อุณหภูมิพอเหมาะ และมีแสงสว่างน้อย อย่างในห้องนอน
โดยกินเศษผิวหนังและรังแคของคน สัตว์ สารอินทรีย์ในฝุ่นละออง
และมูลของมันเองเป็นอาหาร ด้วยเหตุนี้ตัวไรฝุ่นจึงขยายพันธุ์และเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว
ผู้ที่แพ้ไรฝุ่น (หรือละอองต่างๆ ในอากาศ เช่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้) ภูมิต้านทานของร่างกายจะตอบสนองในลักษณะไอ จาม มีน้ำมูกใส คัดจมูก เคืองตา แน่นหน้าอก หรือมีผื่นแดงที่ผิวหนัง แม้ภูมิแพ้จะไม่เป็นอันตรายร้ายแรงอย่างโรคร้ายอื่นๆ แต่ก็บั่นทอนคุณภาพชีวิต และบุคลิกโดยรวม และต้องรักษาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ตามความรุนแรงของโรค ดังนั้น การป้องกันจึงน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด หรือแม้แต่ผู้ที่สงสัยว่าตนเองแพ้ไรฝุ่น ก็ควรดูแลตนเองและสิ่งรอบตัว เพื่อหลีกเลี่ยงไรฝุ่นให้ได้มากที่สุด ดังนี้
•ซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน หรือพรมในน้ำร้อน อุณหภูมิอย่างต่ำ 60 องศาเซลเซียส โดยแช่ไว้ในน้ำร้อนรอจนอุ่นเพื่อฆ่าไรฝุ่น แล้วนำมาซักต่อด้วยน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อล้างสารก่อภูมิแพ้ออกไปจนหมด
•ใช้ผ้าปูที่นอน หมอน และหมอนข้างกันไรฝุ่น และไม่ควรมีตุ๊กตาขนฟู
•หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้า ควรเลือกวัสดุที่ทำจากหนัง พีวีซี หรือพลานสติก
•ควรเปิดม่านและหน้าต่างไล่ความอับชื้น ให้แสดแดดส่องถึงเพื่อช่วยกำจัดกลิ่นอับและฆ่าเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่ง
•สำหรับผู้ที่แพ้ไรฝุ่นไม่ควรกวาดบ้านก่อนถู เพราะจะทำให้ไรฝุ่นฟุ้งกระจายในอากาศ จนเกิดอาการแพ้
•ทำความสะอาดห้องนอน ห้องอื่นๆภายในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ให้ปลอดฝุ่นอยู่เสมอ ไม่ควรมีข้าวของเครื่องใช้มากเกินไป เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง
•ปลูกต้นไม้รอบบ้าน เพื่อป้องกันฝุ่นจากท้องถนนไม่ให้เข้ามาในบ้าน อีกทั้งต้นไม้ยังช่วยกรองอากาศอีกด้วย
ที่มา: หมอสะกีนะฮฺ แพทย์แผนตะวันออก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น